งานอบรม “การแปรรูปสมุนไพรเพื่อการพาณิชย์”
12 มิถุนายน 2556 ณ ศูนย์เรียนรู้เทคโนโลยีการอบแห้งแบบพ่นฝอย
ผู้บรรยายโดย นายแพทย์เปรม ชินวันทนานนท์ ประธานฝ่ายพัฒนาภูมิปัญญาไทย
มูลนิธิโรงพยาบาลเจ้าพระยาอภัยภูเบศร ในพระอุปถัมภ์สมเด็จพระเจ้าภคินีเธอ เจ้าฟ้าเพชรรัตนราชสุดา สิริโสภาพัณณวดี
ผู้เชี่ยวชาญด้านสมุนไพร มีประสบการณ์ในการวิจัยพัฒนาและผลิตสินค้าด้วยสมุนไพรกว่า 30 ปี
วัตถุประสงค์ของการพัฒนาสมุนไพร
1. ความจำเป็นพื้นฐาน
“ช่วงสงครามไม่มียาใช้ สมัยรัฐจอมพล ป. พิบูลสงคราม เราจำเป็นต้องผลิตสมุนไรไทยให้มากขึ้น เราไม่มียาต่างประเทศเพียงพอ”
2. ลดดุลการค้า
“ใช้สมุนไพรไทยทดแทนยาจากต่างประเทศ ช่วงวิกฤตเศรษฐ์กิจต้มยำกุ้ง พญายอ แทนยาต่างประเทศ รักษาเริม, งูสวัด
พญายอต้นทุน 10 บาท ยาต่างประเทศหลอดละ 30 บาท”
3. พัฒนาผลิตภัณฑ์ให้มีความหลากหลาย ตอบสนองต่อความต้องการ
“นอกจากยาแล้วยังเป็นเครื่องดื่ม ต้องตกลงกับหมอในโรงพยาบาล เอาสมุนไพรมาใช้ ทุกคนตกลงเพราะว่าการเงินของโรงพยาบาลอยู่ในช่วงวิกฤต แต่บางกลุ่มก็ยังไม่ยอมรับ โดยผลิตเครื่องดื่ม มะขามป้อม หว่านหาง สมอไทย อันชัน มะตูม ลูกยอ เป็นตัวนำร่องมาก่อน เวลาประชุม ไม่ใช่น้ำกาแฟ เปลี่ยนเป็นน้ำสมุนไพร พอเขาติดใจรสชาติ เขาก็อยากเอามาใช้ ทั้งยังไปแจกงานต่างๆ งานกาชาด แจกผู้ใหญ่เพื่อดึงคนเขามาให้รู้จักอภัยภูเบศร”
4. สร้างความเข้มแข็งให้ชุมชน
“ช่วงแรกไม่ค่อยมีคนสนใจเท่าไหร่ เดิมปลูกต้นไม้สวยงาม ถามว่าจะได้เงินเพิ่มขึ้นไหม เราก็บอกเขาว่า เรามาเรียนรู้ด้วยกัน เขาปลูกเรารับซื้อ ใช้นักวิชาการให้ความรู้แก่เขา ใช้เวลาอย่างน้อย2 ปี ต้องปรับเปลี่ยนสภาพพื้นที่ มีน้อยคนที่จะยอมหันมาทำเกษตรอินทรีย์ แต่หลังจากเห็นครอบครัวที่ทำประสบความสำเร็จก็หันมาทำกันมากขึ้น ทำไปทำมาไปตายเพราะเกิดปัญหาปุ๋ยที่ไปซื้อเค้า ไม่ได้ผลิตเอง เราจะอยู่ได้ครบวงจรต้องผลิตเอง ทั้งปุ๋ย ทั้งยาฆ่าแมลง สร้างโครงการสีเขียว ทุกวันนี้มีทั้งภาคเหนือ กลางใต้ อีสาน 10กว่าจังหวัด”
5. พัฒนาผลิตภัณฑ์สู่สากลผลิต
“ตัวแรกไปขายต่างประเทศคือ ยอ ที่ประเทศออสเตรเลีย กระทิงแดงก็ไปเป็นที่แรก เพราะเข้าง่าย หากเข้าได้ไปแถบEUได้หมด”
6. เสริมการแพทย์กระแสหลัก
“คนเราเจ็บป่วยเพราะอาหารการกิน การอยู่ อาหารให้ครบ 5 หมู่ ตำรับไทยบอกว่าให้กินข้าวกล้องเป็นหลัก กินผักผลไม้หลากสี หลากรส กินปลา ไม่ให้กินซ้ำ เปลี่ยนไปตามฤดูกาล ใจสงบไม่เครียด ออกกำลังกาย เครียดไม่สงบก็เป็นเบาหวานได้ น้ำไม่พอทำให้เกิดปัญญาระบบทางเดิน สูดอากาศไม่บริสุทธิ์ ระบบประสาท ระบบหายใจ ไหลเวียนโลหิต ธาตุไฟคือชีวิต หากไม่สมดุล ระบบตับ ไหลเวียนไม่ดี เราป่วย เพราะธาตุ4 ขาดความสมดุล ขาดความสัมพันธ์ คือหลักทั่วๆไป ส่วนวิทยาศาสตร์บอกว่า ป่วยเพราะเนื่องจากภูมิคุ้มกันบกพร่อง อนุมูลอิสระมีมาก เราไม่สามารถทำลายได้ ทางตะวันตกบอกว่าที่เราป่วยเพราะมีเชื้อเข้าไป แต่จริงๆแล้วเชื้อในร่างกายเรามีเชื้ออยู่แล้ว ในลำไส้ ในปาก เต็มไปหมด ทำไมเราไม่ป่วย ที่ไม่ป่วยเพราะเรามีภูมิคุ้มกันดี สมุนไพรไปช่วยเพิ่มภูมิคุ้มกันได้ และถ้าเราจิตใจสงบด้วย สุขภาพก็จะดี สมุนไพรส่วนใหญ่มีตัวต้านอนุมูลอิสระ ยาแก้ไออภัยภูเบศร มีงานวิจัย ไปเสนอโปรตุเกสได้ผลดี ปีพ.ศ.2526 รามาวิจัยเสนออเมริกา พะยายอแก้เริม,งูสวัด ไปรักษาโรคมะเร็งลำคอ มีตีพิมพ์ในวารสาร”
การควบคุมคุณภาพ
“มาตราหลักคือ 2G ได้แก่ GAP(Good Agricultural Practices), GHP Good Hygiene Practices สิ่ง สำคัญคือเเหล่งปลูก ดิน กรด ด่าง ภูมิอากาศ น้ำ ต้องลงไปตรวจตั้งแต่ต้น พันธุ์พืชต้องเป็นพันธุ์ที่ให้สาระสำคัญมาก อย่างขมิ้นทางใต้ เปล้าน้อยของหัวหิน หรือประจวบคีรีขันธ์ ปุ๋ยเป็นสิ่งสำคัญมาก ต้องทำเองปุ๋ยมูลสัตว์ หรือชีวภาพก็ได้ เกษตรอินทรีย์ถ้าไม่ทำเองจะหมดเงินสารกำจัดศัตรูพืชต้องเป็นสารอินทรีย์ ใช้สะเดา หางไหล เก็บเกี่ยวให้ได้สาระสำคัญมาก จัดการตั้งแต่ปลูก ปราศจากศัตรูพืชและจุลินทรีย์ รับรองโดยสมาพันธ์เกษตรอินทรีย์นานาชาติ”
การแปรรูปสมุนไพรตามมาตรฐาน GMP
“เป็นระบบปิด นำสมุนไพรมาตากแดด ก่อนเอามาอบให้แห้งเพื่อความมั่นใจ เอามาเก็บใส่ถุง ติดสลากให้ดีว่าเก็บเมื่อไหร่ เก็บให้ดีไม่ให้ปนเปื้อนมลภาวะใส่สารกันชื้น ส่งไปอาบรังสี ต้องกักเก็บไว้ตรวจสอบ 7-15 วัน 5-8%ของสินค้าเก็บไว้ทุกล็อต สุ่มมาเก็บ เพื่อให้แน่ใจว่า สินค้าอยู่ได้ตามshelf life ในโรงงานต้องแต่งกายเหมือนชุดอวกาศ สามารถแวะเยี่ยมชมโรงงานได้ อภัยภูเบศรออกนิทรรศการต่างประเทศทุกๆปี ทั้งทางตะวันตก และตะวันออก เราต้องไปเรียนรู้ประเทศอื่นเขาทำอะไรมั่ง ญี่ปุ่นไปทุกปี ญี่ปุ่นเป็นเรื่องของความงามมากกว่า สบู่ของอภัยภูเบศรไปดังที่ญี่ปุ่น คนญี่ปุ่นมาไทยต้องหิ้วสบู่ไป จนต้องมีมาตรการห้ามหิ้วกลับไปเกินคนละ 2 โหล”
“มีอีกส่วนที่ อย.ไม่ยอมผ่าน ที่เอามาต้มแล้ว spray dry เนื่องจากผงที่ออกมายังไม่มีสาระสำคัญสม่ำเสมอ ต้องไปทำวิจัยเพิ่มเติม จริงๆก็ทำได้ใช้กับคน1000 ราย ใช้เวลา 2 ปี ถ้าจะผลิตสินค้าขายทางยุโรปจำเป็นต้องผ่าน EU รับรองมาตรฐาน ต้องเป็นคนที่จบจาก EU หรือเป็นบริษัทที่EUรับรอง ซึ่งค่อนข้างโหด ผลิตภัณฑ์ต้องเอามาสุ่มตรวจ ถ้าไม่ผ่านต้อง reject หมด เวลาที่จะทำลายทิ้งต้องเชิญสรรพากรมาตรวจสอบก่อนว่ามีเท่าไหร่จะได้ไม่ต้อง เสียภาษีส่วนนั้น ถ้าสร้างโรงงานใหม่ ควรออกแบบแล้วส่งไปให้ อย.ตรวจสอบก่อน พื้นที่ใช้ flow ให้ได้มาตรฐาน ถ้าทำไปแล้วต้องมาแก้ทีหลังจะเสียเงินมาก สมุนไพรหลักๆ ยาร้อน ยาเย็น ในบัญชี 71 อย่างที่สามารถผลิตได้ ไม่สามารถบอกว่ารักษาโรคได้ บอกได้แค่บรรเทาโรค ทางอินเดียมีผลงานวิจัยมาก ผลงานวิจัยมี อย.ก็ไม่เชื่อ ต้องเอามาทำเอง สามารถทำกับมหาวิทยาลัยต่างๆ หากจะทำวิจัยจะต้องเขียนสัญญาให้ครบถ้วน ให้รัดกุมว่าผลงานเป็นของใคร บางทีพอวิจัยออกมาแล้วเราไม่สามารถนำผลงานมาใช้ได้”
การผลิตของอภัยภูเบศร
1. ใช้supplier ที่ผ่าน GMP
2. ผลิตเอง
ประเภทของสินค้า
1. เครื่องสำอาง
2. อาหารเสริม
3. ยาแผนโบราณ
4. อาหาร
ตัวอย่างสมุนไพรที่นำมาใช้รักษาโรค
1. ระบบไหลเวียนโลหิต อภัยภูเบศรผลิต 4 ตัว ยาหอมทิพโอสถ, เทพจิต, นวโกฐ, อินทจักร์
2. ธาตุเหล็กบำรุงโลหิต ได้แก่ ยอ มะขามป้อม รักษากล้ามเนื้อ และกระดูกแก้ ได้แก่เถาวัลย์เปรียง ครีมพริก น้ำมันไพล
3. ระบบทางเดินอาหาร ได้แก่ ขมิ้นชันแก้ท้องอืดท้องเฟ้อ ขิง แก้คลื่นไส้อาเจียน ชุมเห็ดเทศ มะขามแขก ฝักคูณเป็นยาระบาย เพกา แก้ริดสีดวงทวาร
4. ระบบทางเดินหายใจ ได้แก่ ยามะขามป้อม ฟ้าทะลายโจร แก้เจ็บคอ แก้หวัด ละลายเสมหะ
5. ระบบผิวหนัง ได้แก่ ครีมบัวบก สมานแผล เปลือกมังคุดแผลสด
6. ระบบทางเดินปัสสาวะ ได้แก่ กระเจี๊ยบแดง หญ้าหนวดแมว บัวบก ช่วยขับปัสสาวะ บำรุงไต
7. แก้ไข แก้ร้อนใน ได้แก่ ยาห้าราก ฟ้าทะลายโจร จันทร์ลีลา
8. แก้พิษเบื่อเมา ยารางจืด
หลักการใช้สมุนไพร
“ใช้ตามอาการ ไม่ควรเกิน 3 สัปดาห์ อย่างมาก 3 เดือน คนที่กินนานควรสังเกตุตัวเอง หากเกิดอาการขี้ร้อนหรือ ขี้หนาวเกินไป ร่างกายอุณภูมิไปเย็นไป ควรกินอาหารประเภทร้อนเข้าไป หากกินนานติดต่อกัน ควรหยุดกิน 2-3 เดือน แล้วค่อยกลับมากินใหม่ อย่างบอระเพ็ดหากกินนานไปจะทำให้ตับอักเสบเอนไซม์จะขึ้น สิ่งสำคัญควรกินสมุนไพรให้เป็นอาหาร เปลี่ยนไปเรื่อยๆจะได้รับสารอาหารครบถ้วน กินยาสมุนไพร 2-3 สัปดาห์ ควบคู่แผนปัจจุบัน แล้วจึงดูอาการว่า จะลดยาแผนปัจจุบันหรือไม่ตามการวินิจฉัยของแพทย์ แต่จริงแล้วที่สำคัญอยู่ที่ต้นเหตุของอาการ เบาหวานเกิดจากตับอ่อนมันเสีย เพราะว่าอาหารหวานไป แป้งมากไป ต้องลด ที่สำคัญจิตใจไม่เครียด ออกกำลังกายช่วยให้ระบบการย่อยดีขึ้น”
การตลาด
“อภัยภูเบศรทำ 30 ปีได้แค่นี้ สมัยนี้เด็กหนุ่มๆทำปีเดียวเป็นพันล้านหมื่นล้าน สมัยก่อนเจริญช้า ตอนนี้เราโตปีละ 20%ช่วงแรกโตเร็วแล้วคงตัว หลังจากนั้นก็ขึ้น สิ่งที่ขาดคือการวิจัยการตลาด ต้องวิจัย เขาชอบอะไร สีอะไร ทุกอย่างถ้าเราผลิตสินค้าที่เขาไม่ชอบ แล้วเราจะขายใคร บรรจุภัณฑ์ต้องเตะตา สะดวกใช้ ขายต่างประเทศก็ต้องรู้ว่าต่างชาติอะไร มีสารต้องห้ามอะไร ขายในประเทศก็ชอบอีกอย่างนึง ฝรั่งไม่ชอบของเราเพราะต้องกินเยอะ คนไม่ชอบกินยาเยอะ ชอบกินน้อยๆ เม็ดเดียวต่อวัน ยาลดไขมันกินก่อนนอนเม็ดเดียว กินหลังอาหารได้ก็จะดีเพราะคนชอบลืม สลากต้องเป็นภาษาของประเทศนั้นๆ ต้องเขียนให้ชัดเจนว่า วิธีใช้ รักษาอะไร วันหมดอายุ สังเกตุดูตัวอักษรต้องตัวใหญ่ กลุ่มเป้าหมายคือคนสูงอายุ เขียนเยอะแยะมากมายเขามองไม่เห็น หากเราขึ้นทะเบียนในบ้านเราแล้วเป็นยา อย.ไม่ยอมอนุญาติให้เราไปขายเป็นอาหารเสริมต้องไปคุยกัน แต่ช่วงหลังๆมานี้ก็เริ่มอนุญาติแล้ว”
การประชาสัมพันธ์
“เราไม่สามารถเคลมว่ารักษาได้จึงต้องใช้การประชาสัมพันธ์เข้าช่วย และใช้การท่องเที่ยวเข้ามาเสริม ให้เค้ามาดูโรงพยาบาลดูการผลิตทำให้เขาเชื่อมั่นในผลิตภัณฑ์”
โฆษณา
“ทำอย่างไรโฆษณาแบรนด์ให้ดี ให้เกิดความชื่อมั่น สร้างแฟนคลับ อย่างดารายังต้องมีแฟนคลับ ผลิตภัณฑ์ก็ต้องมี เราจะเห็นว่างานสมุนไพรแห่งชาติมีคนมาเขามาทุกปี ถามว่าทำไม เค้าอยากมาดูว่าอภัยภูเบศร มีสินค้าอะไรใหม่บ้าง มีโปรโมชั่นอะไร โฆษณาทางสื่อต่างๆเช่น หนังสือพิมพ์ สิ่งพิม อีเล็คทรอนิกส์”
ราคา
“ต้องตั้งราคาให้สมเหตุสมผล ก่อนที่จะตั้งราคาต้องดูผลิตภัณฑ์ที่มีอยู่ จะตั้งให้ถูกกว่าหรือแพงกว่าต้องเลือกดู บางครั้งเราเห็นว่าบางอย่างยาสมุนไพรแพงกว่ายาต่างประเทศ เนื่องจากว่าการผลิตยังน้อยไม่ได้สเกล ตัวที่ทำให้แพงคือตัวบรรจุภัณฑ์ ตัวแคปซูลต้นทุน 1 แคปซูล 30 สตางค์ ตัวสมุนไพรไม่ได้แพง ดูอย่างเครื่องดื่มที่ขายชาเขียว ค่าขวดที่ขาย 6-8 บาท ขายมากต้นทุนก็จะต่ำ สั่งมากเขาคิดถูก สั่งน้อยเค้าก็คิดแพง ต้องให้รัฐบาลมาช่วยเรื่องบรรจุภัณฑ์ ทุกอย่างมันแพงหมด ทั้งบรรจุภัณฑ์และสลาก แต่ก่อนเขาบอกว่าเราซื้อของ เราซื้อค่าโฆษณา แต่สมุนไพรค่าโฆษณายังน้อย บรรจุภัณฑ์แพง”
การลดต้นทุน
“โลจิสติกเนี้ยดูตัวอย่าง Modern trade พวก BigC Tops พวกนี้เวลาเค้าสั่งของเค้าจะมีศูนย์กลางคอยส่งของไปตามสาขา แต่เดี๋ยวนี้เขาแยกสาขาให้แต่ละสาขาสั่งของเอง ของเราก็มีวิธีเหมือนกันคล้ายๆอย่างงี้ เราจะฝากเขาคอยรับทีละน้อยๆ สุดท้ายเขามีลูกเล่น เขาคิดค่าระวาง เราจ้างเขาผลิตและเราต้องจ่ายค่าเช่าที่เก็บเขา แต่เราก็มีวิธีเหมือนกัน จากที่เราจ้างผลิตเป็นล็อต เราจ้างเป็นปี จะช่วยลดค่าใช้จ่ายลงไปได้”
ช่องทางการจำหน่าย
“ยาหนีไม่พ้นต้องเป็นโรงพยาบาล สมุนไพรขายตรงเยอะที่สุด จะเป็น Multi-level หรือเชิงเดี่ยว, ร้านสะดวกซื้อ, e-commerce ตัวอย่างเช่น ebaye-commerce ทำเงินได้สูง ขายได้ทีละล็อตใหญ่ โตได้เร็ว งานนิทรรศการต่างๆ งานexpo เช่น งานสมุนไพรแห่งชาติ ครั้งที่ 10 วันที่ 4-8 กันยายน เมืองทอง หอ 7-8 อภัยภูเบศรก็ไปออกงานด้วยเชิญไปชมได้”
การขายต่างประเทศ
“หากต้องการไปขายต่างประเทศ สามารถติดต่อสภาหอการค้า เขาสามารถช่วยได้ เวลาการขายต่างประเทศ เขาว่าเป็นการค้าที่เป็นธรรม แต่ส่วนหนึ่งก็เป็นการกีดกันทางการค้า ตั้งแต่เรื่องของไม่ใช้แรงงานเด็ก ต้องระวัง ไม่ค้ามนุษย์ ไม่ทุ่มตลาด ตรวจสอบคุณภาพ อย่าง EU ต้องเป็นคนของเขารับรอง แม้กระทั้ง shipping บางแห่งบางประเทศต้อง shipping ผ่านบริษัท ผ่านเครือของเขา ต้องเราระบุพิกัดของวัตถุดิบ FDA มีความสำคัญ หาคู่ค้าในต่างประเทศอันนี้แล้วแต่โชคเหมือนกัน ของอภัยภูเบศร บางประเทศก็รุ่ง บางที่ก็ลุ่มๆดอนๆ”
โปรโมชั่น
“จะลด แลก แจก แถมอย่างไร เดี่ยวนี้ส่วนใหญ่ใช้แล้วไม่ได้ผลยินดีคืนเงิน หรือเราจะเปลี่ยนให้อย่างไรแล้วแต่ เดี๋ยวนี้บุกเดี่ยวไม่ได้ เราต้องมีพันธมิตร อย่างบรรจุภัณฑ์ แล้วแต่Lineที่ผลิต บางท่านไปต่างประเทศคนที่ผลิต ceramic กาว อาจจะไปด้วยกัน เป็น partnership ของอภัยภูเบศรจะก้าวข้ามจุดนี้ไปอีก นอกจากเป็นผู้ผลิตแล้วยังเป็น metro-polis จะทำเป็นสาขาวิจัย เวชกรสีเขียว สถาบันวิจัยวิถีสุขภาพองค์รวม ทั้งแผนไทย และแผนปัจจุบัน มีนวด สปา เกษตรอินทรีย์ ศูนย์เรียนรู้มีทั้งคนไทยและต่างประเทศ วิทยาลัยการแพทย์แผนไทยอภัยภูเบศร มีทั้งคอร์สสั้น และเต็มหลักสูตรปริญญาตรี”