News and Articles

เครื่องหมาย 3A: บทบาทต่อเครื่องจักรและอุปกรณ์ที่ใช้สำหรับผลิตอาหาร

เครื่องหมาย 3A: บทบาทต่อเครื่องจักรและอุปกรณ์ที่ใช้สำหรับผลิตอาหาร


หมวดหมู่: มาตรฐานอาหาร [คุณภาพและ มาตรฐานอาหาร]
วันที่: 27 เมษายน พ.ศ. 2554

ถาม 3-A คือ อะไร

ทำไมเครื่องจักรและอุปกรณ์ที่ใช้สำหรับผลิตอาหารจึงควรใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีเครื่องหมาย 3-A ?

ตอบ เครื่องหมาย สามเอ หรือ ทริปเปิ้ลเอ (Triple A) คือ การกำหนดมาตรฐานทางด้านสุขอนามัยของเครื่องจักรและอุปกรณ์ที่ใช้สำหรับผลิตอาหารและนมแห่งประเทศสหรัฐอเมริกา เมื่อใช้เครื่องจักรและอุปกรณ์ที่ได้รับรองมาตรฐานคุณภาพ 3A จะเป็นหลักประกันความมั่นใจให้กับลูกค้าหรือผู้ใช้งานได้ว่า ผลิตภัณฑ์นั้นมีความสะอาดปลอดภัยไร้การปนเปื้อน ไร้จุดตกค้าง ปลอดเชื้อ เหมาะที่จะนำไปใช้ในกระบวนการผลิตอาหาร นม เครื่องดื่ม โดยเฉพาะโรงงานที่เน้น GMP (หลักเกณฑ์วิธีการที่ดีในการผลิต) และ HACCP (การวิเคราะห์อันตรายและจุดวิกฤตที่ต้องควบคุม)

ผู้ที่จะติดเครื่องหมาย 3A ลงบนเครื่องจักรหรืออุปกรณ์ได้นั้น ในขั้นต้นจะต้องผ่านการรับรองมาตรฐาน ISO 9000 เสียก่อนจึงจะมีคุณสมบัติไปขอการรับรองมาตรฐาน 3-A ได้ ในขั้นตอนของการขอ 3-A ทางองค์การการจัดการและบริหารเครื่องหมายมาตรฐาน 3A แห่งประเทศสหรัฐอเมริกา (3-A Sanitary Standard Inc.) จะส่งผู้เชี่ยวชาญเข้ามาตรวจสอบวัตถุดิบและกระบวนการผลิตเพื่อให้เป็นไปตามหลักการและมาตรฐานขององค์กรฯ ซึ่งองค์กรนี้จะประสานงานกับอีกหน่วยงานหนึ่งที่มีชื่อ The International Association of Food Industry Supplier (IAFIS) เพื่อพิจารณาออกใบรับรองมาตรฐาน 3-A (3-A CERTIFIED QUALITY) ให้กับผู้ผลิตเครื่องจักรและอุปกรณ์ โดยผู้ผลิตที่ได้รับการรับรองจะต้องถูกองค์กร 3-A เข้าตรวจสอบโรงงานและกระบวนการผลิตปีละครั้ง เพื่อให้คงมาตรฐาน 3-A ตลอดไป

เครื่องจักรและอุปกรณ์ที่ได้รับเครื่องหมาย 3A เปรียบเสมือนผลิตภัณฑ์อาหารที่ได้รับเครื่องหมาย อย.

แหล่งข้อมูลอ้างอิง

ศุภโชค เหลืองสุวิมล บริษัท เซอร์วิเทค เอ็นจิเนียริ่ง จำกัด

จากหนังสือปั๊มสำหรับอุตสาหกรรมอาหารและยา , บริษัท ฟูด เน็ทเวิร์ค โซลูชั่น จำกัด, พิมพ์ครั้งที่ 1 (2551) หน้า 120



ข่าวและบทความที่เกี่ยวข้อง
ขอเชิญร่วมฟังการ บรรยายทางวิชาการที่เกี่ยวข้องกับ ขบวนการแปรรูปผลิตภัณฑ์อาหาร
บริษัท GEA Process Engineering จำกัด ขอเชิญร่วมฟังการ บรรยายทางวิชาการที่เกี่ยวข้องกับ ขบวนการแปรรูปผลิตภัณฑ์อาหาร ในงาน Thailand Food Conference 2011, The 1st ASEAN's Advanced International Food Conference ในวันที่ 4 มีนาคม พ.ศ. 2554 Hall 7-8, อาคาร Impact เมืองทองธานี หัวข้อที่ผู้เชี่ยวชาญของบริษัท จะบรรยาย มีดังนี้ 1. Non-dairy coffee cream and drying technology behind โดย Mr. Claus Siegaard 2. Freeze drying technology in Food and Beverage industries โดย Mr. Kim Knudsen 3. Trends in application of high pressure homogenizing technology in food processing โดย Mr. I.Y. Sarma 4. Plate Heat Exchanger - technology and application in food industry โดย Mr. Lars Klinkebail สำหรับท่านที่สนใจเข้าร่วมฟังการบรรยายทางวิชาการดังกล่าวสามารถติดต่อสำรองที่นั่งได้ที่ บริษัท Food Industry Network จำกัด รายละเอียด เพิ่มเติมใน Food Seminars "Thailand Food Conference 2011" สำหรับท่านที่สนใจเข้าร่วมฟังการบรรยายทางวิชาการดังกล่าวสามารถติดต่อสำรองที่นั่งได้ที่ บริษัท Food Industry Network จำกัด ตามรายละเอียดที่แนบมาhttp://www.foodnetworksolution.com/uploads/content/19be703d6e51aa371e85e7ae89e0b5d8.pdfและดูรายละเอียดการสัมนาได้ที่ http://www.foodnetworksolution.com/seminar/link/10
ปัญหาหลักของปั๊มในโรงงานอาหารและแนวทางแก้ไข
ปัญหาหลักของปั๊มในโรงงานอาหารและแนวทางแก้ไข บทความนี้เป็นส่วนหนึ่งของหนังสือปั๊มสำหรับอุตสาหกรรมอาหารและยา (ดูตัวอย่างหนังสือ) ปั๊ม เป็นอุปกรณ์ที่สำคัญและจำเป็นสำหรับอุตสาหกรรมอาหาร โดยเฉพาะอาหารเหลว เช่น ผลิตภัณฑ์นม (dairy product) เครื่องดื่ม โดยบทความนี้จะช่วยให้วิศวกร นายช่างในอุตสาหกรรมอาหารวิเคราะห์ปัญหา สาเหตุ และเสนอแนวทางในการแก้ปัญหา ที่มักพบในการติดตั้งและใช้งานปั๊ม ในระบบการผลิตอาหารที่มีการใช้ปั๊มมาเกี่ยวข้อง ปั๊มมักจะถูกกล่าวหาว่าเป็นต้นเหตุของปัญหา แท้จริงแล้วปัญหาอาจไม่เกี่ยวข้องกับปั๊ม แต่อาจจะเกิดขึ้นเนื่องจาก ขาดการควบคุมชนิดหรือคุณสมบัติของของเหลวที่ต้องการปั๊ม เช่น ของเหลวหนืดมากเกินไป มีของแข็งปนมากไป มีอากาศปน หรืออาจเนื่องจากการปรับเปลี่ยนความต้องการในการผลิต เช่น การปรับเพิ่ม / ลดอุณหภูมิ ซึ่งทำให้ปั๊มไม่สามารถที่จะทำงานได้ตามปกติ เมื่อพบปัญหาก่อนที่จะวิเคราะห์ถึงสาเหตุ เราจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องรวบรวมข้อมูลของกระบวนการให้ได้มากที่สุด ซึ่งข้อมูลที่ควรจะรวบรวมมีดังต่อไปนี้ ตรวจเช็คสภาพการใช้งานปั๊มเบื้องต้น ตรวจหาว่ามีอะไรในกระบวนการผลิตที่เปลี่ยนแปลงบ้าง หลังการใช้งานครั้งสุดท้ายในสภาพปกติ เช่น ความดัน อุณหภูมิ ความหนืดของอาหารเหลว เป็นต้น ระบบการทำงานได้มีการบำรุงรักษาตามระยะเวลาที่เหมาะสมหรือไม่ มีการเปลี่ยนอะไหล่ใช้งานใหม่หรือไม่ ปั๊มได้รับการซ่อมบำรุงครั้งสุดท้ายเมื่อไร สภาพภายในและภาวะการทำงานของปั๊มเป็นอย่างไร ปั๊มทำงานมานานแค่ไหนก่อนที่จะพบปัญหา ปั๊มมีเสียงดังหรือการสั่นสะเทือน เปลี่ยนไปจากเดิมหรือไม่ ปัญหาที่พบทั่วไปอาจเนื่องมาจาก อัตราการไหลลดลง สูญเสียแรงดูด ความดันขาออกต่ำ เกิดเสียงดังหรือสั่นสะเทือนมากเกินไป ปั๊มใช้พลังงานมากเกินไป อะไหล่ปั๊มสึกเร็วเกินไป ซีลรั่ว 1. อัตราการไหลลดลง (Loss of Flow) สาเหตุเบื้องต้นซึ่งมักถูกมองข้ามอาจเนื่องมาจาก การหมุนของเพลาที่ผิดทิศทาง หรืออาจเนื่องจากความดันขาออกมากเกินไป นอกจากนี้อาจเกิดจากการเปลี่ยนความหนืดของอาหารเหลวที่ต้องการปั๊ม สำหรับ Rotary Lobe Pump ถ้าความหนืดลดลงมาก อัตราการไหลก็จะลดลงมากด้วย rotary lobe pump สำหรับ Centrifugal Pumpถ้าความหนืดเพิ่ม อัตราการไหลจะลดลง 2. สูญเสียแรงดูด (Loss of Suction) การสูญเสียแรงดูด อาจเป็นเพียงปัญหาเล็กน้อย ที่ส่งผลกระทบระยะสั้น หรืออาจจะมากพอที่ทำให้เกิดปัญหาใหญ่กับปั๊มได้ การสูญเสียแรงดูด หมายความว่า ของเหลวไม่ถูกส่งเข้าไปในตัวปั๊ม หรือส่งไปไม่เพียงพอ ทำให้ความดันไม่สูงพอที่จะให้ของเหลวถูกปั๊มในสถานะที่เป็นของไหล (Fluid State) การสูญเสียแรงดูด อาจแปลความได้ว่าเป็นการสูญเสียความสามารถที่จะเติมของเหลวที่จะปั๊มในท่อให้เต็ม (Priming) หรือปัญหาที่เกี่ยวข้องกับกาซที่เป็นส่วนประกอบของของไหล Rotary Lobe Pump ซึ่งจัดเป็นปั๊มชนิด Self Priming มีความสามารถพิเศษที่จะปั๊มอากาศจากด้านสูบไปยังด้านส่งได้ระดับหนึ่ง การเติมของเหลวฝั่งขาเข้าระดับเดียวกัน หรืออย่างน้อยทำให้ภายในปั๊มเปียก ก็สามารถที่จะพัฒนาความสามารถที่จะเติมของเหลวที่จะปั๊มในท่อให้เต็ม Priming ของปั๊มได้มาก Liquid Ring Pump จัดเป็นปั๊มชนิด Self Priming เช่นกัน ถ้าเสื้อปั๊ม ถูกเติมด้วยของเหลวถึงครึ่งหนึ่ง Cavitation มีสาเหตุมาจาก ความดันขาเข้าไม่เพียงพอ อาจเนื่องมาจากหลายสาเหตุ เช่น ความหนืดของของเหลวสูงเกินไป ความเร็วของปั๊มสูงเกินไป หรืออาจเนื่องมาจาก ความสกปรก ชิ้นอาหาร หรือมีวัสดุปลอมปนที่ลอยอยู่ในของไหล ไปอุดตันตะแกรงกรองขาเข้า ซึ่งไปขัดขวางช่องทางขาเข้า ถ้าของไหลมีอุณหภูมิต่ำกว่าอุณหภูมิที่ออกแบบไว้ จะทำให้ของเหลวมีความหนืดสูงมาก จนเกิดแรงเสียดทานที่มากเกินและทำให้สูญเสียความดันในระบบท่อขาเข้า Cavitation มักจะเกิดขึ้นพร้อมกับการเกิดเสียงดัง การสั่นสะเทือน การกระตุกของความดันขาออกเพิ่มขึ้น ถ้าปล่อยให้เกิด Cavitation เป็นเวลานาน จะทำให้เกิดความเสียหายกับส่วนประกอบของปั๊ม หรือเกิดรูรั่วขึ้นได้ กาซในท่อขาเข้า มีผลกระทบกับการทำงานของปั๊ม และทำให้เกิดอาการ เหมือน Cavitation ซึ่งเกิดขึ้นได้ภายใต้สภาวะต่าง ๆ เช่น การที่ปั๊มทำงานในภาวะที่ความดันขาเข้าต่ำกว่าความดันบรรยากาศ ซึ่งอากาศดูดเข้าไปในท่อได้ทางข้อต่อที่หลวม รอยรั่วของก้านวาล์วขาเข้า หรือทางรูรั่วของรอยต่อประเก็นในระบบท่อ สำหรับระบบที่มีการนำปั๊มของเหลวแบบวนกลับมาใช้ใหม่ เช่น ระบบหล่อลื่น สารหล่อลื่นที่ถูกปั๊มมาวนที่ถังเก็บอย่างต่อเนื่อง ถ้าถังเก็บและท่อนำกลับออกแบบตำแหน่งและขนาดไม่ถูกต้อง จะทำให้อากาศไปรวมตัวกับสารหล่อลื่นได้ง่ายและถูกดูดเข้าไปทางขาเข้า ดังนั้นจึงต้องมั่นใจว่า ระดับของของเหลวที่ถังเก็บไม่ต่ำกว่าระดับต่ำสุดขณะทำงาน การไหลกลับไปยังถังส่ง ควรจะหยุดเมื่อระดับของเหลวต่ำกว่าระดับต่ำสุดที่ตั้งไว้ 3. ความดันขาออกต่ำ (Low Discharge Pressure) ความดันขาออกของปั๊ม เกิดจากสาเหตุเดียวคือ แรงต้านของปั๊มต่อการไหลซึ่งเกิดจากปั๊ม ทำให้ไม่สามารถให้อัตราการไหลที่ต้องการ หรืออาจเนื่องมาจากการไหลถูกขัดขวางก่อนจะเข้าปั๊ม ทำให้เกิด Cavitation โดยทั่วไปการเกิดจะเกิดพร้อมเสียงและการสั่นสะเทือน เมื่อปั๊มไม่สามารถทำอัตราการไหลได้ อาจทำให้ปั๊มพังหรือชิ้นส่วนภายในเสียหาย หรือของเหลวที่ปั๊มไหลออกช่องทางอื่น ที่ไม่ใช่ช่องทางที่ระบบต้องการให้ไหลออก 4. เกิดเสียงดังหรือแรงสั่นสะเทือนมากเกินไป (Noise and Vibration) การเกิดเสียงดังหรือแรงสั่นสะเทือนมากเกินไป เป็นอาการที่แสดงว่า มีการเกิด Cavitation หรือการเสียหายเชิงกลของชิ้นส่วนในปั๊ม หรือปั๊มหมุนผิดทิศ หรือมีสิ่งปลอมปนรบกวนอยู่ในระบบ หากพบว่าความดันขาออกเปลี่ยนแปลงแบบขึ้น ๆ ลง ด้วยสาเหตุสำคัญของปัญหาน่าจะเกิดจาก Cavitation ส่วนสาเหตุทางกลของการเกิดเสียงและการสั่นสะเทือนอาจเนื่องมาจากการประกอบเพลาผิด เกิดการหลวมของตัวยึดหรือชิ้นส่วนต่าง ๆ ภายในปั๊ม การสึกหรอของต้นกำลังขับและรองลื่น (Bearing) หรือ เสียงจากวาล์ว โดยเฉพาะอย่างยิ่งในทางขาออกของปั๊ม อาจจะเกิดการสั่น ซึ่งเกิดจากความดันขณะทำงาน อัตราการไหล และการออกแบบวาล์วที่เหมาะสม การตั้งค่าใหม่ หรือการเปลี่ยนแปลงส่วนประกอบภายในของวาล์วจะช่วยแก้ปัญหานี้ได้ 5. ปั๊มใช้พลังงานมากเกินไป การใช้พลังงานมากเกินไป อาจเกิดเนื่องจากปัญหาทางกลหรือปัญหาด้านไฮโดรลิค ปัญหาทางกล ได้แก่ ความหนืดของของเหลวมากเกินไป ทำให้หนักมากเกินไป สำหรับ Rotary Lobe Pump ความดันขาออกที่มากเกินไป อาจทำให้มอเตอร์ทำงานหนักเกินไป สำหรับ Centrifugal Pump ความดันขาออกที่ต่ำเกินไป ก็อาจทำให้มอเตอร์ทำงานหนักเกินไป 6. อะไหล่ปั๊มสึกหรอเร็วเกินไป อาจเนื่องมาจากการขัดสีจากของไหล การกัดกร่อนทางเคมี ความเสียหายของรองลื่นที่หนุนเพลา (Bearing Failure) การใช้งานปั๊มเกินกำลัง การใช้งานปั๊มในสภาพไม่เหมาะสม เช่น การเกิด Cavitation ความดันสูงเกิน อุณหภูมิสูง วิธีแก้ไข ควรหลีกเลี่ยงการใช้วัสดุที่กัดกร่อนปั๊ม ควรใช้ตัวกรองเข้าช่วยกรอง (Strainer and Filter) และในบางครั้งการตรวจดูสภาพภายในปั๊มตามระยะเวลาอาจไม่เพียงพอ หากการสึกกร่อนของปั๊มเร็วเกิน ควรสืบหาสาเหตุจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในช่วงเวลาที่มีปัญหา 7. การรั่วของซีล Mechanical Seal ที่ติดอยู่กับ Centrifugal Pump, Rotary Lobe Pump และ Liquid Ring Pump อาจจะเป็นจุดอ่อนที่ทำให้เกิดการรั่วของปั๊ม ดังนั้นจึงควรจะระมัดระวังดูแลเป็นพิเศษ เพื่อให้แน่ใจว่าได้เลือกซีลที่เหมาะสมสำหรับการใช้งาน นอกจากนี้ การรั่วของซีลอาจจะมีสาเหตุมาจาก Cavitation ของปั๊ม ความดันขาออกที่สูงเกิน หรือปล่อยให้ปั๊มเดินเปล่า (Run Dry) หรืออาจเกิดจากการมีของแข็งที่ไม่เหมาะสมหลุดเข้าไปในของเหลวที่กำลังปั๊ม แหล่งข้อมูลอ้างอิง Alfa Laval (Thailand) Co., Ltd. จากหนังสือปั๊มสำหรับอุตสาหกรรมอาหารและยา , บริษัท ฟูด เน็ทเวิร์ค โซลูชั่น จำกัด, พิมพ์ครั้งที่ 1 (2551) หน้า 120
มาตรฐานของกระป๋องบรรจุอาหาร
กระป๋องบรรจุอาหาร การบรรจุอาหารที่ต้องการเก็บรักษาไว้ในกระป๋อง โดยต้องมีการจัดการหรือควบคุมสิ่งที่จะทำให้อาหารที่บรรจุอยู่ในกระป๋องหรือตัวกระป๋องนั้นเสื่อมเสียได้ ส่วนใหญ่ปฏิกิริยาเคมีและเชื้อจุลินทรีย์จะถูกทำลายด้วยความร้อนและมีการปรุงแต่งด้วยสารเคมีที่ปลอดภัยสำหรับอาหาร ทั้งนี้เพื่อช่วยลดเวลาในการฆ่าเชื้อหรือช่วยรักษาคุณภาพของอาหารให้เก็บได้นาน หน้าที่ของกระป๋องบรรจุอาหาร ตัวกระป๋อง มีหน้าที่ ในการป้องกันสิ่งแวดล้อมภายนอกที่จะมาทำลายคุณภาพอาหาร ได้แก่ แสง อากาศโดยเฉพาะ oxygen เชื้อจุลินทรีย์ ดังนั้น กระป๋องจึงต้องการสภาพการปิดผนึกสนิท (Hermetically Sealed container) เพื่อช่วยในการรักษาสภาพอาหาร อย่างไรก็ตาม ก็ยังมีการเกิดปฏิกิริยาเคมีอย่างต่อเนื่องภายในตัวกระป๋อง ซึ่งมีผลต่ออายุการเก็บรักษาของอาหาร ทำให้ต้องบริโภคอาหารก่อนวันหมดอายุที่ระบุไว้จริง อาหารกระป๋องจะได้รับการปกป้องอย่างดี และมีอายุการเก็บตามต้องการได้นั้น ต้องอาศัยปัจจัย 2 ประการ คือ มาตรฐานของบรรจุภัณฑ์กระป๋องที่เหมาะกับอาหารนั้น และการควบคุมกระบวนการผลิตอาหารกระป๋องอย่างถูกต้องตามหลักวิชาการ มาตรฐานของบรรจุภัณฑ์กระป๋องที่เหมาะกับอาหาร (Packaging Specification) ประกอบด้วย 1. แผ่นโลหะ แผ่นโลหะที่นิยมใช้ประกอบด้วย แผ่นเหล็ก ได้แก่ - แผ่นเหล็กเคลือบดีบุก (Tin plate ) - แผ่นเหล็กเคลือบโครเมียม (Tin Free Steel ) แผ่นอะลูมิเนียม ได้แก่ - มีการปรับปรุงคุณภาพให้เกิด Alloy มีคุณสมบัติตามที่ต้องการ - Alloy 3104, 5182, 5042 โดยมีส่วนประกอบของโลหะผสมที่ แตกต่างกัน การเลือกใช้แผ่นโลหะ การจะเลือกใช้เหล็กหรืออะลูมิเนียม ขึ้นกับ 1. ความต้องการของตลาดต้นทุนและความเป็นไปได้ทางเทคโนโลยีการผลิต เช่น - ฝาของกระป๋องเครื่องดื่ม นิยมใช้อะลูมิเนียม - ฝาของตัวกระป๋องอาหาร นิยมใช้แผ่นเหล็ก 2. Alloy และ Impurity จะต้องเป็นไปตามกฎหมาย 3. การเคลือบผิวเพื่อป้องกันโลหะกัดกร่อน - เคลือบด้วยดีบุก ความหนาต่างๆตามการใช้งาน - เคลือบด้วยโครเมี่ยม - Treat ผิวบน Aluminium เพื่อป้องกัน oxide 4. ความหนา, ความแข็ง (Temper) สิ่งที่ต้องพิจารณา คือ - ความแข็งแรงของแผ่นโลหะที่จะใช้มีเพียงพอในการผลิตอาหารและขนส่งหรือไม่ - ความเหมาะสมกับเครื่องจักรในการผลิตกระป๋องและการบรรจุอาหาร 2. สารเคลือบป้องกัน ( Protection Coating) การเคลือบด้วยดีบุกเพียงอย่างเดียว ยังไม่เพียงพอหรือไม่เหมาะสมกับอาหารหรือสภาพแวดล้อม บางครั้งต้องการ Coating หรือเพิ่มการปกป้อง เช่นมีการใช้แลคเกอร์เคลือบ โดยเลือกใช้แลคเกอร์ให้เหมาะสมกับประเภทของอาหารประเภท โดยทั่วไปแผ่นอะลูมิเนียมและแผ่นชุปโครเมี่ยม (TFS) ต้องอาบแลคเกอร์ก่อนใช้งาน ประเภทของสารเคลือบที่ใช้งานปัจจุบัน Internal Finish Acid Resistance Protection
11 ควอลิตี้ อวอร์ด ประจำปี 2554 ด้านอาหาร
ปีนี้สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ได้ เผยโฉม 11 สถานประกอบการดีจริยธรรมเด่น ด้านอาหาร  คว้ารางวัล อย. ควอลิตี้ อวอร์ด ประจำปี 2554 โดยมีหลักเกณฑ์ดังนี้ สธ. จัดพิธีมอบรางวัล อย.ควอลิตี้ อวอร์ด ประจำปี 2554 อย่างยิ่งใหญ่ ให้แก่สถานประกอบการที่โดดเด่นด้าน กระบวนการผลิตและจริยธรรมจากทั่วประเทศ รวม 36 ราย ทั้งอาหาร ยา เครื่องสำอาง เครื่องมือแพทย์ วัตถุอันตราย ที่ใช้ในบ้านเรือน และผลิตภัณฑ์สุขภาพชุมชน เพื่อเป็นขวัญและกำลังใจแก่ผู้ประกอบการที่ตั้งใจทำดี คำนึงถึงความ ปลอดภัยและประโยชน์ของผู้บริโภคเป็นสำคัญ วันนี้ ( 9 กันยายน 2554 ) ณ ห้องแกรนด์ บอลรูม โรงแรมมิราเคิล แกรนด์ คอนเวนชั่น นายวิทยา บุรณศิริ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เปิดเผยว่า กระทรวงสาธารณสุข โดยสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา ได้จัดพิธีมอบรางวัล อย.ควอลิตี้ อวอร์ด ปี 2554 อย่างยิ่งใหญ่ให้แก่สถานประกอบการด้านผลิตภัณฑ์สุขภาพ ได้แก่ อาหาร ยา เครื่องสำอาง เครื่องมือแพทย์ วัตถุอันตรายที่ใช้ในบ้านเรือน และผลิตภัณฑ์สุขภาพชุมชน ที่ผ่านหลักเกณฑ์ คือ มีการผลิตผลิตภัณฑ์สุขภาพเพื่อจำหน่ายในประเทศที่ได้คุณภาพ หากเป็นผู้ประกอบการผลิตเพื่อส่งออกต้องมี การจำหน่ายในประเทศด้วย โดยมีระยะเวลาประกอบการติดต่อกันอย่างน้อย 5 ปี มีการรักษาคุณภาพมาตรฐาน ด้วยดีมาโดยตลอด มีการนำเอาระบบคุณภาพมาพัฒนาหรือควบคุมการผลิตให้ผลิตภัณฑ์ที่ออกสู่ท้องตลาดมี คุณภาพ ที่สำคัญไม่เคยถูกดำเนินคดี หรือถูกปรับ หรือถูกตักเตือน ตามกฎหมายของ อย. ย้อนหลังเป็นเวลา 2 ปี (นับถึงวันเปิดรับสมัคร) มีระบบในการตอบสนองต่อผู้บริโภค (Customer Relations) และประกอบการด้วย ความรับผิดชอบต่อสังคม สถานประกอบการที่ได้รับรางวัล อย. ควอลิตี้ อวอร์ด ปี 2554 ในประเภทต่างๆ จำนวน 36 ราย  ทั้งนี้ มีผู้ประกอบการที่ได้รับรางวัลด้านอาหาร จำนวน 11 ราย ดังนี้ 1. บริษัท จอมธนา จำกัด จ.ปทุมธานี 2. บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) 3. บริษัท ใบชาโชคจำเริญ จำกัด จ.เชียงราย 4. บริษัท เพรซิเดนท์ เบเกอรี่ จำกัด (มหาชน) 5. บริษัท แฟชั่นฟู้ด จำกัด จ.นครปฐม 6. บริษัท วันไทยอุตสาหกรรมการอาหาร จำกัด 7. บริษัท ศิริวานิช (เอส แอนด์ ดับเบิ้ลยู) จำกัด จ.พิษณุโลก 8. บริษัท สุรพลฟู้ดส์ จำกัด (มหาชน) 9. บริษัท เสริมสุข จำกัด (มหาชน) 10. บริษัท เอส แอนด์ พี ซินดิเคท จำกัด (มหาชน) และ 11. ห้างหุ้นส่วนจำกัด อิสริยะผล จ.เชียงใหม่   Foodnetworksolution พาไปเยี่ยมชมกันแล้ว 2 โรงงานคือ เยียมชม บริษัท เพรซิเดนท์ เบเกอรี่ จำกัด (มหาชน)   และ เยียมชม บริษัท วันไทยอุตสาหกรรมการอาหาร จำกัด    ต้องบอกว่า สมควรได้รับรางวัลนี้จริงๆ และขอปรบมือเป็นกำลังใจให้กับผู้ประกอบการทั้ง 11 แห่งรักษาความดีนี้ไว้ตลอดไปนะคะ ผู้บริโภคทุกคนเอาใจช่วยค่ะ
สมัครสมาชิก

สนับสนุนโดย / Supported By

  • บริษ้ท มาเรล ฟู้ดส์ ซิสเท็ม จำกัด จัดจำหน่ายเครื่องจักรและอุปกรณ์การแปรรูปอาหาร เช่น ระบบการชั่งน้ำหนัก, การคัดขนาด, การแบ่ง, การตรวจสอบกระดูก และการประยุกต์ใช้ร่วมกับโปรแกรมคอมพิวเตอร์ พร้อมกับบริการ ออกแบบ ติดตั้ง กรรมวิธีการแปรรูปทั้งกระบวนการ สำหรับ ผลิตภัณฑ์ ปลา เนื้อ และ สัตว์ปีก โดยมีวิศวกรบริการและ สำนักงานตั้งอยู่ที่กรุงเทพ มาเรล เป็นผู้ให้บริการชั้นนำระดับโลกของอุปกรณ์การแปรรูปอาหารที่ทันสมัย​​ครบวงจรทั้งระบบ สำหรับอุตสาหกรรม ปลา กุ้ง เนื้อ และสัตว์ปีก ต่างๆ เครื่องแปรรูปผลิตภัณฑ์สัตว์ปีก Stork และ Townsend จาก Marel อยู่ในกลุ่มเครื่องที่เป็นที่ยอมรับมากที่สุดในอุตสาหกรรม พร้อมกันนี้ สามารถบริการครบวงจรตั้งแต่ต้นสายการผลิตจนเสร็จเป็นสินค้า เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับทุกความต้องการของลูกค้า ด้วยสำนักงานและบริษัทสาขามากกว่า 30 ประเทศ และ 100 เครือข่ายตัวแทนและผู้จัดจำหน่ายทั่วโลก ที่พร้อมทำงานเคียงข้างลูกค้าเพื่อขยายขอบเขตผลการแปรรูปอาหาร Marel Food Systems Limited. We are supply weighing, grading, portioning, bone detection and software applications as well as complete turn-key processing solutions for fish, meat and poultry. We have service engineer and office in Bangkok. Marel is the leading global provider of advanced food processing equipment, systems and services to the fish, meat, and poultry industries. Our brands - Marel, Stork Poultry Processing and Townsend Further Processing - are among the most respected in the industry. Together, we offer the convenience of a single source to meet our customers' every need. With offices and subsidiaries in over 30 countries and a global network of 100 agents and distributors, we work side-by-side with our customers to extend the boundaries of food processing performance.
  • วิสัยทัศน์ของบริษัท คือ การอยู่ในระดับแนวหน้า "ฟอร์ฟร้อนท์" ของเทคโนโลยีประเภทต่างๆ และนำเทคโนโลยีนั้นๆ มาปรับใช้ให้เหมาะสมกับอุตสาหกรรมและกระบวนการผลิตในประเทศไทย เพื่อผลประโยชน์สูงสุดของลูกค้า บริษัท ฟอร์ฟร้อนท์ ฟู้ดเทค จำกัด เชื่อมั่นและยึดมั่นในอุดมการณ์การดำเนินธุรกิจ กล่าวคือ จำหน่าย สินค้าและให้บริการที่มีคุณภาพสูง ซึ่งเหมาะสมกับความต้องการของลูกค้า ด้วยความซื่อสัตย์และความตรงต่อเวลา เพื่อการทำธุรกิจที่ประสบความสำเร็จร่วมกันระยะยาว Our vision is to be in the "forefront" of technology in its field and suitably apply the technology to industries and production in Thailand for customers' utmost benefits. Forefront Foodtech Co., Ltd. strongly believes in and is committed to our own business philosophy which is to supply high quality products and service appropriately to each customer's requirements with honesty and punctuality in order to maintain long term win-win business relationship. Forefront Foodtech Co., Ltd. is the agent company that supplies machinery and system, install and provide after sales service as well as spare parts. Our products are: Nock, made in Germany: manufacturer of skinning machines, membrane skinning machine, slicers and scale ice makers. Frey, made in Germany: manufacturer of vacuum stuffers and chain linking system. Kronen, made in Germany: manufacturer of washing, centrifuges and cutting machinery for vegetable and fruits. Bandall, made in Netherlands: manufacturer of banding machine. Emerson, made in Romania: smoke chamber. G.Mondini, made in Italy: manufacturer of top seal, skin pack, paper seal, slimfresh and slicefresh for ready meal, meat, petfood and etc. Dorit, made in Germany: manufacturer of tumblers and injectors. Cliptechnik, made in Germany: manufacturer of single and double clippers for table top use and standalone clipping machines. Firex, made in Italy: manufacturer of food-processing equipment for kitchen and commercial equipment. Orved, made in Italy: manufacturer of vacuum packing machine. Carsoe, made in Denmark: designs and produces products for the seafood and food processing industry Gernal, made in Belgium: manufacturer of food-processing equipment for industrial Mado, made in Germany: manufacturer of meat-processing industry
  • We are well known for reliable, easy-to-use coding and marking solutions which have a low total cost of ownership, as well as for our strong customer service ethos. Developing new products and a continuous programme of improving existing coding and marking solutions also remain central to Linx's strategy. Coding and marking machines from Linx Printing Technologies Ltd provide a comprehensive solution for date and batch coding of products and packaging across manufacturing industries via a global network of distributors. In the industrial inkjet printer arena, our reputation is second to none. Our continuous ink jet printers, laser coders, outer case coders and thermal transfer overprinters are used on production lines in many manufacturing sectors, including the food, beverage, pharmaceutical, cosmetics, automotive and electronic industries, where product identification codes, batch numbers, use by dates and barcodes are needed. PTasia, THAILAND With more than 3,700 coding, marking, barcode, label applicator, filling, packing and sealing systems installed in THAILAND market. Our range is includes systems across a wide range of technologies. To select the most appropriate technology to suit our customers. An excellent customer service reputation, together with a reputation for reliability that sets standards in the industry, rounds off the PTAsia offering and provides customers with efficient and economical solutions of the high quality. Satisfyingcustomers inTHAILAND for 10 years Our 1,313 customers benefit from our many years of experience in the field, with our successful business model of continuous improvement. Our technical and service associates specialise in providing individual advice and finding the most efficient and practical solution to every requirment. PTAsia extends its expertise to customers in the food, beverage, chemical, personal care, pharmaceutical, medical device, electronics, aerospace, military, automotive, and other industrial markets.