connect networks, collect information, compare solutions, and compile knowledge for your best solution สร้างเครือข่าย รวบรวมข้อมูล เปรียบเทียบโซลูชั่น เพื่อพิจารณา เลือกโซลูชั่นที่ดีที่สุด

Food Wiki

ค้นหา 6,332 คำศัพท์

Milk powder / นมผง

นมผง (milk powder) เป็นผลิตภัณฑ์แปรรูปจากน้ำนม (dairy product) ที่ได้จากน้ำนมดิบ (raw milk) ที่ผ่านกรรมวิธีฆ่าเชื้อ และระเหยน้ำออกด้วยกรรมวิธีการทำแห้ง (dehydration) เช่น การทำแห้งแบบพ่นฝอย (spray drier) จนได้เป็นผลิตภัณฑ์ที่เป็นผง

กรรมวิธีการผลิตนมผง

 

 

  • การทำให้เข้มข้น ด้วยการระเหย (evaporation) การทำแห้งโดยตรงโดยไม่ทำให้น้ำนมเข้มข้นขึ้นก่อน ต้องใช้เวลานาน ต้นทุนการผลิตสูง ใช้พลังงานมากเกินความจำเป็น การระเหยจะเพิ่มปริมาณธาตุน้ำนมให้เพิ่มขึ้นเป็น 45-48% เครื่องระเหยที่นิยมใช้ เช่น Falling Film Evaporator ซึ่งเป็นเครื่องระเหยที่ทำงานต่อเนื่องกัน (multiple effect evaporator)
  • การทำแห้ง (dehydration) ในระดับอุตสาหกรรมที่นิยมใช้มีอยู่ 2 ระบบ คือ ระบบการทำแห้งแบบลูกกลิ้ง ( drum drier) หรือแบบฉีดพ่นฝอย (spray drier) ในบรรยากาศของลมร้อน

การทำแห้งแบบลูกกลิ้ง

การทำแห้งระบบลูกกลิ้ง (drum drier) เมื่อผ่านน้ำนมเข้มข้นไปบนพื้นผิวร้อนของลูกกลิ้ง เพื่อระเหยเอาน้ำออกจนได้แผ่นนมแห้ง ซึ่งถูกขูดออกจากผิวลูกกลิ้งโดยใบมีด ผลิตภัณฑ์ที่ได้มีลักษณะเป็นเกล็ดต้องนำมาบดให้เป็นผงต่อไป

การสัมผัสโดยตรงระหว่างน้ำนมเข้มข้นกับลูกกลิ้งร้อน ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในน้ำนม เช่น การเกิดสีน้ำตาล (browining reaciton) จากปฏิกิริยาคาราเมไลเซชัน (caramelization) ปฏิกิริยาเมลลาร์ด (Maillard reaction) จากปฏิกิริยาของน้ำตาลแล็กโทส (lactose) และกรดแอมิโนไลซีน (lysine) ทำให้เกิดกลิ่นไหม้ (scorched flavor) และการสูญเสียสภาพธรรมชาติของโปรตีน (protein denaturation) ทำให้นมผงละลายไม่ดี การใช้ระบบการทำแห้งภายใต้สุญญากาศ การทำแห้งของนมผงที่อุณหภูมิต่ำกว่า 100 องศาเซลเซียส ที่ความดัน 91-98 กิโลพาสคาล สามารถลดผลอันเกิดจากออกซิเจนละอุณหภูมิที่สูงเกินไป นมผงจะมีคุณภาพดีกว่าเมื่อเปรียบเทียบกับระบบของความดันบรรยากาศ

การทำแห้งระบบฉีดพ่นฝอย

ระบบฉีดพ่นฝอยได้รับความนิยมในอุตสาหกรรมนมและผลิตภัณฑ์นม นมเข้มข้นจะถูกพ่นเป็นฝอย (atomized) และสัมผัสกับลมร้อนในห้องทำแห้ง ห้องทำแห้งอาจจะเป็นแบบแนวนอนหรือแนวตั้ง แม้ว่าแบบแนวนอนจะเป็นที่นิยมใช้ในบางประเทศ เช่น สหรัฐอเมริกา ในขณะที่แบบแนวตั้งที่เป็นทรงกรวยตอนล่างจะได้รับความนิยมมากกว่า ลมหรืออากาศจะถูกกรองก่อนทำให้ร้อนด้วยไอน้ำหรือน้ำมันหรือก๊าซ ซึ่งทำให้มีอุณหภูมิระหว่าง 150-300 องศาเซลเซียส ปล่อยลมร้อนไปสู่ห้องทำแห้งด้วยความเร็ว 50 เมตรต่อวินาที ลมร้อนอาจไหลในทิศทางเดียวกับทิศทางของน้ำนม (concurrent flow) หรือไหลสวนทิศทางกัน (countrecurrent flow) หรือมีทิศทางทำมุมซึ่งกัน (mixed flow)

ข้อดีของระบบไหลสวนทิศของลมร้อนกับนมผง คืออากาศที่ร้อนที่สุดสัมผัสกับนมผงที่แห้งเป็นบางส่วน ซึ่งจะเพิ่มการถ่ายเทความร้อนและมวลดีขึ้น ช่วยประหยัดพลังงาน อย่างไรก็ตาม นมผงที่ได้ถูกทำให้ร้อนขึ้นจนถึงสิ้นสุดของการทำแห้ง เคซีน (casein) ในปริมาณความเข้มข้นสูงถูกทำให้สูญเสียสภาพธรรมชาติ (protein denaturation) ได้ง่าย ในทางตรงข้ามระบบไหลในทิศทางเดียวกันมีจุดด้อยที่ค่าใช้จ่ายในส่วนของพลังงานความร้อน แต่ได้รับความนิยมในอุตสาหกรรมนมเนื่องจากคุณภาพของการละลายดีกว่า ข้อดีของการทำแห้งแบบฉีดพ่นฝอยมีมากกว่าวิธีทำแห้งอื่นๆ สามารถสรุปได้ว่าใช้เวลาทำแห้งสั้นที่อุณหภูมิต่ำกว่า จึงทำให้ได้นมผงมีคุณภาพดี ไม่เกิดออกซิเดชันได้ง่าย ไม่สูญเสียวิตามิน และโปรตีนไม่ถูกทำให้สูญเสียสภาพธรรมชาติ ข้อเสียของการทำแห้งระบบฉีดพ่นฝอยคือ ห้องทำแห้งมีขนาดใหญ่ อุปกรณ์ราคาแพง ใช้พลังงานไฟฟ้าและไอน้ำมาก การลงทุนสูงจึงเหมาะกับการผลิตขนาดใหญ่กว่า 100,000 กิโลกรัม หรือประมาณ 500,000 กิโลกรัมของนมดิบต่อวัน ปัจจุบันพัฒนาโรงงานทำแห้งด้วยเครื่องมือทันสมัยสามารถผลิตนมผงได้ 18 ตันต่อชั่วโมง หรือประมาณ 5 กิโลกรัมต่อวินาที

milk powder

ที่มา: http://www.dairy-equipments.com

  • การบรรจุ การบรรจุนมผงแตกต่างกันตามวัสดุที่ใช้และขนาดของภาชนะ วัสดุที่นิยมใช้คือ ถุงที่เคลือบกันน้ำและมีพลาสติกอยู่ข้างในอีกชั้นหนึ่ง ซึ่งมีขนาดบรรจุตั้งแต่ 15 ถึง 25 กิโลกรัม ภาชนะที่ทำจากพอลิเอทิลีนจะมีความแข็งแรงเท่าๆ กับภาชนะที่เป็นโลหะ
  • นมผงอาจบรรจุในกระป๋องเคลือบด้วยดีบุก โดยมีขนาดบรรจุ 1-5 กิโลกรัม
  • การยืดอายุการเก็บรักษาอาจทำได้โดยการเติมสารป้องกันการหืนหรือการบรรจุโดยการใช้ก๊าซเฉื่อย เช่น ไนโตรเจน หรือคาร์บอนไดออกไซด์เข้าไปแทนที่ออกซิเจน เพื่อลดการเกิดออกซิเดชันของไขมัน (lipid oxidation) อย่างไรก็ตาม หากเก็บนมผงไว้นานเกินไป จะมีผลทำให้การละลายน้ำลดลง การเก็บนมผงให้ถูกต้อง คือ ควรเก็บไว้ในที่เย็นและแห้ง ซึ่งจะมีผลให้คุณค่าทางอาหารเสื่อมคุณภาพไปอย่างช้าๆ แม้ว่าจะเก็บไว้เป็นปีบรรจุภัณฑ์ของนมผงพร่องมันเนยและนมผงขาดมันเนยต้องแสดงข้อความบนฉลากว่า "อย่าใช้เลี้ยงทารก"

 

  milk powder
 

กรรมวิธีการผลิตนมผง

ที่มา : http://nzic.org.nz/ChemProcesses/dairy/3C.pdf

 

ชนิดของนมผง

  • นมผงชนิดเต็มมันเนย
  • นมผงชนิดพร่องมันเนย
  • นมผงชนิดขาดมันเนย

 

Source: Dairy Processing Handbook. Published by Tetra Pak Processing Systems AB, S-221 86 Lund, Sweden.

 

วัตถุเจือปนอาหารที่อนุญาติให้ใช้ในผลิตภัณฑ์นมผง

  • วัตถุประสงค์ วัตถุเจือปนอาหาร ปริมาณสูงสุดที่ให้ใช้ได้ (มิลลิกรัมต่อ 1 กิโลกรัม)
    สเตบิไลเซอร์

    (Stabilizers)

    • โซเดียมซิเทรต (Sodium citrates)
    • โพแทสเซียมซิเทรต (Potassium citratess)
    • 5,000 mg/kg ใช้อย่างเดียว หรือใช้ร่วมกันคำนวณในสภาพปราศจากน้ำ

    วัตถุทำให้คงรูป

    (Firming agents)

    • โพแทสเซียมคลอไรด์ (Potassium chloride)
    • แคลเซียมคลอไรด์ (Calcium chloride)
    • ปริมาณที่เหมาะสมตามความ จำเป็นในการผลิต

    สารปรับความเป็น

    กรด - ด่าง

    (Acidity Regulators)

    • โซเดียมฟอสเฟต (Sodium phosdphates)
    • โพแทสเซียมฟอสเฟต (Potassium phosphates)
    • ไดฟอสเฟต (Diphosphates)
    • ไตรฟอสเฟต (Triphosphates)
    • พอลิฟอสเฟต (Polyphosphates)
    • โซเดียมคาร์บอเนต (Sodium carbonates)
    • โพแทสเซียมคาร์บอเนต (Potassium carbonates)
    • 5,000 mg/kgใช้อย่างเดียวหรือใช้ร่วมกันคำนวณในสภาพปราศจากน้ำ

    อีมัลซิไฟเออร์

    (Emulsifiers)

    • เลซิทิน (Lecithins or phospholipids from natural sources)
    • มอโนและไดกลีเซอไรด์ (Monoglyceride and diglycerides of fatty acid)
    • ปริมาณที่เหมาะสมตามความจำเป็นในการผลิต
    • 2,500 มิลลิกรัม ต่อกิโลกรัม

    วัตถุกันการรวมตัวเป็นก้อน (Anticaking Agents)

    • แคลเซียมคาร์บอเนต (Calcium carbonate)
    • ไตรแคลเซียม ออโธฟอสเฟต (Tricalcium orthophosphate)
    • ไตรแมกนีเซียม ออโธ ฟอสแฟต (Trimagnesium orthophosphate)
    • แมกนีเซียมคาร์บอเนต (Magnesium carbonate)
    • แมกนีเซียม ออกไซด์ (Magnesium oxide)
    • ซิลิคอน ไดออกไซด์ (Silicon dioxide, amorphous)
    • แคลเซียม ซิลิเคต (Calcium silicate)
    • แมกนีเซียมซิลิเคต (Magnesium silicate)
    • โซเดียม อะลูมิโนซิลิเคต (Sodium aluminosilicate)
    • แคลเซียม อะลูมิเนียม ซิลิเคต (Calcium aluminium silicate)
    • อะลูมิเนียม ซิลิเคต (Aluminium silicate)
    • 10,000 มิลลิกรัม ต่อกิโลกรัมใช้อย่างเดียวหรือใช้ร่วมกัน
    วัตถุกันหืน

    (Antioxidants)

    • กรดแอล - แอสคอร์บิก (L - Ascorbic acid)
    • โซเดียมแอสคอร์เบต (Sodium ascorbate)
    • แอสคอร์บิลปาลมิเทต (Ascorbyl palmitate)

     

    500 มิลลิกรัม ต่อกิโลกรัม คำนวณเป็นกรดแอสคอร์บิก (ascorbic acid)
     
    • บิวทิเลตเตตไฮดรอกซิอะนิโซล (Butylated hydroxyanisole BHA)

    100 มิลลิกรัม ต่อกิโลกรัม

     

 

 



(เข้าชม 4,898 ครั้ง)

คำศัพท์ที่เกี่ยวข้อง
สมัครสมาชิก