โหระพา (sweet basil หรือThai basil) มีชื่อวิทยาศาสตร์คือ Ocimum basilicum Linn อยู่ในวงศ์ LABIATAE เป็น พืชที่ใช้รับประทานเป็นผักสมุนไพรใช้รับประทานสดและประกอบอาหารประเภทแกงหรือผัดเพื่อให้มีกลิ่นหอม
ลักษณะทางพฤษศาสตร์
โหระพาเป็นพืชล้มลุก ลำต้นตั้งตรงมีความสูง 8-28 นิ้ว ลักษณะของลำต้น และกิ่งก้านเป็นเหลี่ยม แตกกิ่งก้านสาขามีมาก ผิวเปลือกลำต้นมีเป็นสีเขียวอมม่วง และมีขนปกคลุมทั้งลำต้นมีกลิ่นหอม ใบเป็นใบเดี่ยว มีลักษณะเป็นรูปรียาว ปลายและโคนใบเรียวแหลม ริมขอบใบเรียบ หรือมีหยักเล็กน้อย ใบมีขนาดกว้างประมาณ 1-3.5 ซม. ยาวประมาณ 2-6 ซม. ใบมีสีเขียวเข้ม ก้านใบยาวประมาณ 0.7-2 ซม. ดอกมีขนาดเล็กสีขาวหรือม่วงจะออกเป็นช่อคล้ายฉัตรที่ยอด ดอกมีทั้งสีม่วง แดงอ่อน และสีขาว เมล็ดมีสีดำ
การใช้ประโยชน์
ใบและยอดอ่อนใช้รับประทานเป็นผักสด ใช้เป็นอาหาร แต่งกลิ่นรสของอาหารให้น่ารับประทานยิ่งขึ้น ช่วยดับกลิ่นคาว อาหารไทยที่ใช้โหระพาเป็นส่วนผสม เช่น แกงเลียง แกงเผ็ด ผัดต่างๆ เช่น ผัดหอย ผัดมะเขือยาว ผัดฟักทอง ในอาหารอิตาลี่ นิยมใช้ปรุงแต่งกลิ่นรสของ ซอสพาสต้า น้ำสลัดด้วย
ใบโหระพาแห้ง และน้ำมันโหระพา ใช้แต่งกลิ่นรสของอาหารแปรรูป เช่น ซอสมะเขือเทศ ขนมผิง ลูกอม ผักดอง (pickle) ไส้กรอก และ เครื่องดื่มต่างๆ
สารสำคัญ
โหระพา มีน้ำมันหอมระเหยร้อยละ 1.5 องค์ประกอบทางเคมีที่สำคัญ คือ methyl chavicol และ linalool น้ำมันหอมระเหยจากใบโหระพายังประกอบด้วย ocimine, alpha-pinene, 1,8-cineole, eucalyptol ,geraniol, limonene, eugenol, methyl cinnaminate, 3-hexen-1-ol, estragol
ใบโหระพายังเป็นแหล่งสำคัญของ บีตา-แคโรทีน ใบโหระพา 100 กรัม มีบีตา-แคโรทีนสูงถึง 452.16 ไมโครกรัม
สรรพคุณทางยา
ใบสด แก้ท้องอืดเฟ้อ ขับลมจากลำไส้ ต้มดื่มแก้ลมวิงเวียน ใบโหระพาสด ขับลมแก้ท้องอืดเฟ้อ ช่วยย่อยอาหาร และเมล็ดโหระพาเมื่อแช่น้ำจะพองเป็นเมือก เป็นยาระบาย เนื่องจากไปเพิ่มจำนวนกากอาหาร (bulk laxative)