ขนมฝอยทอง เป็นขนมไทย ได้วิธีการทำมาจากชาวโปรตุเกสชื่อ เลดีฮอร์เดอควีมา (คุณท้าวทองกีบม้า) ภรรยาของเจ้าพระยาวิชเยนทร์ กงศุลโปรตุเกส ได้นำมาสอนฝ่ายใน
ในสมัยสมเด็จพระเจ้านารายณ์มหาราช ชาวโปรตุเกสรับประทานฝอยทองแกล้มกับเนื้อย่าง เป็นอาหารคาว ส่วนคนไทยนำมาเป็นอาหารหวาน นิยมใช้เป็นขนมเลี้ยงพระในงานมงคลต่างๆ เนื่องจากชื่อขนมมีคำว่า " ทอง " จึงถือเป็นมงคล ขนมฝอยทองในงานเหล่านี้ต้องเป็นเส้นที่ยาวมาก เพราะถือเป็นเคล็ดตามชื่อและลักษณะของฝอยทองว่าทำให้อายุยืนยาว จะตัดฝอยทองให้สั้นเป็นคำๆ เพื่อให้ง่ายต่อการรับประทานไม่ได้ กฎที่ถือกันมาจนเป็นประเพณีของไทย
วัตถุดิบ
วัตถุดิบที่ใช้ในการผลิตฝอยทองประกอบด้วย ไข่ น้ำตาล เป็นส่วนผสมหลัก
วิธีการทำฝอยทอง
เตรียมน้ำค้างไข่หรือน้ำต้อย คือน้ำหล่อเลี้ยงไข่แดง ช่วยประคองไม่ให้ไข่แดงติดเปลือก จะเกิดขึ้นเมื่อไข่ถูกเก็บไว้สัก 1-2 วัน วิธีแยกเอาน้ำค้างไข่ ทำได้โดยวางไข่ให้ส่วนแหลมอยู่ด้านล่างเพื่อให้น้ำค้างไข่ที่เกิดขึ้นไหลลงมาอยู่ส่วนแหลม เวลาตอกไข่ให้ตอกส่วนป้านของไข่โดยรอบ ค่อยๆ เทไข่แดงและไข่ขาวออกจากเปลือก น้ำค้างไข่จะค้างอยู่ในเปลือก ให้เทแยกใส่ชามไว้ต่างหาก หากทำฝอยทองโดยใช้ไข่แดงล้วนๆ ไข่แดงจะข้นมาก และไม่สามารถไหลออกจาก กรวยที่มีรูเล็กๆ ได้ น้ำค้างไข่จะช่วยลดความเข้มข้นของไข่แดงและยังช่วยให้ไหลลื่นจากกรวยได้ง่ายด้วย วิธีที่ง่ายกว่านี้ในการแยกน้ำค้างไข่ ก็คือ ตอกไข่ทั้งหมดใส่ชามไว้ นำไข่ทั้งชามไปเท กรองด้วยกระชอน ส่วนที่เป็นน้ำค้างไข่จะใสและไหลผ่านกระชอนลงมาเอง
การผลิตฝอยทอง เริ่มจากต่อยไข่ใส่ชาม แยกไข่ขาวออกจากไข่แดง รีดเอาเยื่อออก แล้วใส่น้ำตาลและน้ำลอยดอกมะลิลงในกระทะตั้งไฟ คนให้น้ำตาลละลาย พอเดือดปรับไฟ ให้แรงเฉพาะตรงกลางกระทะ แล้วเริ่มโรยฝอยทองได้ โดยใส่ไข่แดงที่ผสมน้ำค้างไข่และคนเข้ากันดีแล้ว ลงในกรวยสำหรับโรยไข่ โรยลงในน้ำเชื่อมแบบวนรอบกระทะประมาณ 20 หรือ 30 รอบแล้วแต่ว่าต้องการขนมแพเล็กหรือแพใหญ่ รอให้เดือด ใช้ส้อมตักขนมขึ้นด้วยการตักจากริมกระทะด้านหนึ่ง ไปฝั่งตรงข้ามแล้วแล้วจึงยกขึ้นพับทบให้สวยงามเรียงใส่จาน