แคลอรี (calorie) เป็นหน่วยของพลังงาน ในระบบเมตริก ถูกแทนที่ด้วย หน่วยจูล (joule) ในระบบ SI แต่ยังนิยมใช้เป็นแคลอรี เป็นหน่วยที่ใช้บอกพลังงานจากอาหาร (food energy) นิยามของแคลอรีมีอยู่ 2 รูปแบบคือ
1. small calorie เป็นหน่วยของปริมาณความร้อน ซึ่ง 1 แคลอรี หมายถึง ปริมาณความร้อนที่ทำให้น้ำบริสุทธิ์ 1 กรัม มีอุณหภูมิสูงขึ้น 1 องศาเซลเซียส ที่ความดันบรรยากาศ 1 แคลอรี เท่ากับ 4.186 จูล (Joule)
2. large calorie เป็นหน่วยพลังงานที่ได้จากการเผาผลาญอาหาร แคลอรีสำหรับอาหาร (food calorie) เป็น large calorie กล่าวคือ
1 แคลอรี่อาหาร เท่ากับ 1 กิโลแคลอรี (Kcal) หรือ 1,000 แคลอรี ซึ่งอาจเรียกเพียง แคลอรี่ แทนการเรียกชื่อเต็มว่า กิโลแคลอรี่ มีค่าเทียบเท่า พลังงานที่ทำให้น้ำ 1 กิโลกรัม มีอุณหภูมิสูงขึ้น 1°ซ. หรือเท่ากับ 4.184 กิโลจูล ( KJ, kilojoule)
สารอาหารที่ให้พลังงาน
สารอาหารที่ให้พลังงาน คือ คาร์โบไฮเดรต โปรตีน และไขมัน
พลังงานจากอาหาร
กำหนดให้ คนทั่วไปที่ทำงานหนักปานกลาง ต้องการพลังงานวันละประมาณ 2,000 แคลอรี (ผู้ที่ทำงานหนัก เช่น กรรมกร นักกีฬา ก็จะต้องการพลังงานมากกว่านี้ หรือ ผู้ที่ทำงานเบากว่า ก็จะต้องการพลังงานน้อยกว่านี้)
สารอาหารที่ให้พลังงาน คือ คาร์โบไฮเดรต โปรตีน และไขมัน ตามข้อแนะนำของ Thai Recommended Daily Intakes (Thai RDI) ปริมาณสารอาหารทั้งสามที่แนะนำให้บริโภคในฉลากโภชนาการนั้น เทียบสำหรับผู้ที่ต้องการพลังงานวันละประมาณ 2,000 แคลอรี หากต้องการพลังงานมากหรือน้อยกว่านี้ ให้ปรับกินเพิ่ม หรือลดลงตามส่วน จากพลังงานทั้งหมดที่ต้องการต่อวัน ควรเป็น
การคำนวณพลังงานจากอาหาร
ตามข้อแนะนำของ Thai Recommended Daily Intakes (Thai RDI) ปริมาณสารอาหารที่ แนะนำให้บริโภคในฉลากโภชนาการจะสามารถคำนวณหาปริมาณคาร์โบไฮเดรต โปรตีน และไขมัน ที่ควรบริโภคในแต่ละวันได้ ดังนี้
สารอาหาร | สัดส่วนพลังงาน (%) | แคลอรี/กรัม | แคลอรีที่ควรได้/วัน | ปริมาณที่ควรบริโภค (กรัม/วัน) | |
คาร์โบไฮเดรต | 60 | 4 | (60/100) x2,000 | 1,200 | 1,200/4 =300 |
โปรตีน | 10 | 4 | (10/100) x 2,000 | 200 | 200/4= 50 |
ไขมัน | 30 | 9 | (30/100) x 2,000 | 600 | 600/9 = 66.66 |
พลังงานจากกรดไขมันอิ่มตัว (saturated fatty acid) ร้อยละ 10 จากทั้งหมด 2,000 แคลอรี
คิดเป็น (10/100) x 2,000 = 200 แคลอรี
ซึ่งจะต้องได้จากกรดไขมันอิ่มตัว 200/9= ประมาณ 20 กรัม