สารในกลุ่มซัลไฟด์ (sulfites, sulfiting agent หรือ เขียนว่า sulphiting agent) ใช้เป็นวัตถุเจือปนอาหาร (food additive)
สารกลุ่มซัลไฟต์ ที่ใช้เป็นวัตถุเจือปนอาหาร มีดังนี้
227 |
แคลเซียมไฮโดรเจนซัลไฟต์ |
Calcium hydrogen sulfite |
228 |
โพแทสเซียมไบซัลไฟต์ |
Potassium bisulfite |
224 |
โพแทสเซียมเมแทไบซัลไฟต์ |
Potassium metabisulfite |
225 |
โพแทสเซียมซัลไฟต์ |
Potassium sulfite |
222 |
โซเดียมไฮโดรเจนซัลไฟต์ |
Sodium hydrogen sulfite |
223 |
โซเดียมเมแทไบซัลไฟต์ |
Sodium metabisulfite |
221 |
โซเดียมซัลไฟต์ |
Sodium sulfite |
539 | Sodium thiosulfate | |
220 |
ซัลเฟอร์ไดออกไซด์ |
Sulfur dioxide |
สารกลุ่มซัลไฟต์ เมื่อถูกความร้อนจะสลายให้ก๊าซ ซัลเฟอร์ไดออกไซด์ (sulfur dioxide : SO2) หรือ ซัลฟูรัส แอนไฮดราย
(sulfurous anhydride) หรือ ซัลฟูรัส ออกไซด์ (sulfurous oxide) SO2 เป็นก๊าซได้ดีที่สภาวะเป็นกรด ไม่ติดไฟ มีกลิ่นฉุน
รุนแรงทำให้หายใจไม่ออก หนักกว่าอากาศ 2.264 เท่า ละลายน้ำได้ดี ละลายน้ำแล้วให้กรดซัลฟิวรัส การใช้สารในกลุ่มซัลไฟต์
ในอาหาร
1. เป็นสารกันเสีย (preservative) ที่มีประสิทธิภาพสูง ราคาถูก ง่ายต่อการใช้งาน ช่วยยับยั้งการเจริญของ ยีสต์ (yeast) รา
(mold) และแบคทีเรีย (bacteria) เช่น ใช้ฆ่า เชื้อจุลินทรีย์ในการทำไวน์ (wine) เบียร์ (beer) 2เป็นวัตถุกันหืน (antioxidant)
2. ยับยั้งปฏิกิริยาการเกิดสีน้ำตาลที่เนื่องจากเอนไซม์ (enzymatic browning reaction) และ ปฏิกิริยาการเกิดสีน้ำตาลที่ไม่
เกี่ยวข้องกับเอนไซม์ (non enzymatic browning reaction) ใช้ในอาหารที่เป็นผักผลไม้สด ผักผลไม้แห้ง ผักผลไม้ดอง
ผักผลไม้แช่อิ่ม ผลไม้กวน แยม (jam) น้ำตาลทราย น้ำตาลปี๊บ น้ำเชื่อม และผลิตภัณฑ์แป้ง เช่น วุ้นเส้น เส้นหมี่ และก๋วยเตี๋ยว
ใช้ในเจลาติน (gelatin) ถั่วบรรจุกระป๋อง หน่อไม้กระป๋อง เห็ดกระป๋อง กะทิกระป๋อง มันฝรั่งกระป๋อง และอาหาร
แช่เยือกแข็ง เป็นต้น
พิษของสารซัลไฟต์
พิษของก๊าซ SO2 ปริมาณ 8 ส่วนในล้านส่วน จะทำให้เกิดอาการระคายเคืองของระบบหายใจ ปริมาณ 20 ส่วนในล้านส่วน
จะทำให้เกิดอาการระคายเคืองตา เป็นสารก่อภูมิแพ้ (food allergen) ถ้ารับประทานเข้าไปไม่มาก ร่างกายขับออกทาง
ปัสสาวะได้ แต่ถ้ามากเกินไปจะมีผลไปลดประสิทธิภาพการใช้โปรตีน และไขมันในร่างกายของคนเราและมีฤทธิ์ทำลาย
วิตามิน B1 ด้วย ถ้า SO2 สะสมในร่างกายมากๆ อาจทำให้หายใจติดขัด ปวดท้อง ท้องร่วง เวียนศีรษะ อาเจียน หมดสติ
และอาจตายได้ในผู้ที่แพ้มากหรือเป็นหอบหืด
ปริมาณการใช้
เนื่องจาก สารในกลุ่มซัลไฟต์ มีพิษและ เป็นสารก่อภูมิแพ้ (food allergen) จากพระราชบัญญัติ อาหารของกระทรวง
สาธารณสุข ได้กำหนดการใช้เกลือซัลไฟด์ เกลือไบซัลไฟด์ของโซเดียมและโพแทสเซียมเป็นอาหารควบคุมเฉพาะ
ต้องมีคุณภาพเป็นไปตามกฏกระทรวงสาธารณสุขฉบับที่ 84 (พศ.2527) เรื่องวัตถุเจือปนอาหารและได้กำหนดปริมาณ
การใช้ของสารดังกล่าวในอาหารบางชนิดได้แก่ น้ำตาลทราย น้ำตาลมะพร้าว วุ้นเส้น เส้นหมี่ เส้นก๋วยเตี๋ยว แอพริคอตแห้ง
ลูกเกต กุ้งแช่เยือกแข็ง และเนื้อกุ้งดิบ
องค์การอนามัยโลกกำหนดค่าความปลอดภัยไว้ คือ ปริมาณที่ได้รับไม่เกิน 0.7 มิลลิกรัม/คน/วัน
(ADI : Acceptable Daily Intake)