เนื่องจากสารอาหารต่างๆ มีหน้าที่สำคัญต่อร่างกาย ดังนั้น ในแต่ละวันจึงจำเป็นต้องกินอาหารให้ได้สารอาหารครบถ้วน
ตามที่ร่างกายต้องการ ในประเทศไทย กองโภชนาการ กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข ได้แบ่งอาหารหลักของคนไทย
ออกเป็น 5 หมู่ ดังนี้

                หมู่ที่ 1 อาหารประเภทเนื้อสัตว์ต่างๆ ปลา ไข่ ถั่วเมล็ดแห้งต่างๆ น้ำนมและผลิตภัณฑ์จากน้ำนม
อาหารเหล่านี้เป็นแหล่งของสารอาหารโปรตีน ซึ่งร่างกายจะนำไปใช้สร้างเป็นกล้ามเนื้อ เพื่อให้ร่างกายเจริญเติบโต
สร้างเอนไซม์ ฮอร์โมน ภูมิต้านทานโรค ฮีโมโกลบินในเม็ดเลือดแดง และช่วยเสริมสร้างร่างกายให้แข็งแรง แคลเซียม
ในน้ำนมและผลิตภัณฑ์นมยังช่วยสร้างกระดูกและฟัน

       
               หมู่ที่ 2 อาหารประเภท ข้าว แป้ง น้ำตาล เผือก มัน ข้าวโพด และผลิตภัณฑ์จากแป้งและน้ำตาล อาหาร
เหล่านี้เป็นแหล่งของสารอาหารคาร์โบไฮเดรต ซึ่งเป็นสารอาหารที่ให้พลังงานและความร้อนแก่ร่างกายที่ร่างกายนำ
ไปใช้เป็นอันดับแรก ทำให้ร่างกายมีพลังงานใช้ในการทำกิจกรรมต่างๆ ได้ดี

               หมู่ที่ 3 อาหารประเภทผักใบเขียว และพืชผักอื่นๆ อาหารเหล่านี้เป็นแหล่งของสารอาหารแร่ธาตุต่างๆ
และวิตามินต่างๆ และมีเส้นใยอาหารช่วยเพิ่มเนื้ออุจจาระและดูดซับของเสียออกจากร่างกายทางอุจจาระ

                หมู่ที่ 4 อาหารประเภทผลไม้ต่างๆ อาหารเหล่านี้เป็นแหล่งของสารอาหารคาร์โบไฮเดรต เพราะมีปริมาณ
สตาร์ชและน้ำตาลอยู่มากกว่าผัก จึงให้พลังงานได้มากกว่าการกินผัก และยังเป็นแหล่งของแร่ธาตุต่างๆ วิตามินต่างๆ
และเส้นใยอาหารด้วย

                หมู่ที่ 5 อาหารประเภทไขมันและน้ำมัน เช่น น้ำมันหมู กะทิ และน้ำมันพืชต่างๆ (น้ำมันถั่วเหลือง น้ำมันงา
น้ำมันปาล์ม และน้ำมันรำข้าว เป็นต้น) อาหารเหล่านี้เป็นแหล่งของสารอาหารไขมันหรือน้ำมันซึ่งให้พลังงานสูงกว่า
สารอาหารชนิดอื่น             

การจัดแบ่งอาหารออกเป็น 5 หมู่ของประเทศไทย มีจุดประสงค์เพื่อให้สะดวกในการเลือกชนิดของอาหารที่จะบริโภค
นั่นเอง เพราะการที่จะกำหนดให้คนไทยบริโภคอาหารในรูปของปริมาณอาหารเป็นจำนวนกรัมหรือแคลอรี เพื่อให้ร่างกาย
ได้รับสารอาหารต่างๆ ครบถ้วนตามที่ร่างกายต้องการนั้นค่อนข้างยุ่งยาก

                ดังนั้น การที่จะทำให้ร่างกายสมบูรณ์ แข็งแรง ปราศจากโรคภัยไข้เจ็บ จำเป็นต้องเลือกกินอาหารในแต่ละวัน
ให้ครบทั้ง 5 หมู่ และต้องได้สัดส่วนที่เหมาะสมกับความต้องการของร่างกาย อาหารหมู่ต่างๆ เหล่านี้จะกินทดแทนกันไม่ได้
นอกจากอาหารที่อยู่ในหมู่เดียวกันเท่านั้นที่อาจกินทดแทนกันได้ เช่น การกินเผือกหรือมันเทศทดแทนการกินข้าว
ซึ่งเป็นแหล่งของคาร์โบไฮเดรตเช่นเดียวกัน ถ้าร่างกายได้รับอาหารหมู่หนึ่งหมู่ใดขาดไปเป็นระยะเวลานานๆ อาจส่งผล
กระทบทำให้ร่างกายขาดสารอาหารบางชนิดที่จะมีผลทำให้เกิดโรคขาดสารอาหารได้