ซีเควสเทรนต์ เป็นวัตถุเจือปนอาหาร (food additive) ช่วยให้สี กลิ่น รส และลักษณะเนื้อสัมผัสของผลิตภัณฑ์อาหารและเครื่องดื่ม เช่น
น้ำผลไม้ อาหารกระป๋อง น้ำอัดลม ทำให้คุณภาพอาหารคงตัวและได้มาตรฐาน โดยมีหน้าที่เป็น chelating agent ทำปฏิกิริยากับโลหะ
ที่มีอยู่ในอาหารหรือที่ปนเปื้อนมาในวัตถุดิบซึ่งมีปริมาณเล็กน้อยในอาหาร เช่น เหล็ก ทองแดง นิเกิล ทำให้เกิดเป็นสารประกอบเชิงซ้อน
โลหะเหล่านี้บทบาทสำคัญที่เร่งให้เกิดปฏิกิริยาเคมีต่างๆ เช่น ปฏิกิริยาออกซิเดชันของลิพิด (lipid oxidation) ทำให้ าหารมีสี กลิ่น รส และเนื้อสัมผัสผิดปกติ
ซีเควสเทรนต์ที่ใช้ในอุตสาหกรรมอาหาร
ซีเควสเทรนต์ที่นิยมใช้ในอุตสาหกรรมอาหารหลายชนิด
1. ซีเควสเทรนต์ในธรรมชาติ เป็นสารที่พบว่ามีอยู่แล้วตามธรรมชาติในอาหาร ตัวอย่างเช่น
- กรดพอลิคาร์บอกซีลิก (polycarboxylic acids) ได้แก่ กรดออกซาลิก (oxalic acid) และ กรดซักซินิก (succinic acid) เป็นต้น
- กรดไฮดรอกซีคาร์บอกซีลิก (hydroxycarboxylic acids) ได้แก่ กรดซิตริก กรดมาลิก และกรดทาร์ทาริก เป็นต้น
- กรดพอลิฟอสฟอริก (polyphosphoric acids) ได้แก่ เอทีพี (ATP) เฮกซาเมแทฟอสเฟต และไพโรฟอสเฟต เป็นต้น
- กรดแอมิโน ได้แก่ ไกลซีน (glycine) และ ซิสตีน (cystine) เป็นต้น
- สารโมเลกุลใหญ่ (macromolecules) ได้แก่ พอร์ไฟริน (porphyrin) เพบไทด์ (peptides) และโปรตีน เป็นต้น
2. ซีเควสเทรนต์สังเคราะห์ ได้แก่
- EDTA ( ethylene diamine tetra-acetate) (E385) ซึ่งอาจจะอยู่ในรูปของเกลือแคลเซียมหรือโซเดียมก็ได้ หรือแคลเซียมไฟเทต (calcium phytate) หรือโซเดียมไทโอซัลเฟต (sodium thiosulfate) เป็นต้น
- Glucono delta-lactone (E575)
- Sodium gluconate (E576)
- Potassium gluconate (E577)
- Sodium tripolyphosphate
- Sodium hexametaphosphate (E452i)
- Tartaric acid