อาหารออร์แกนิก (organic food) หรืออาหารเกษตรอินทรีย์ หมายถึง อาหารที่ได้จากผลิตผลทางการเกษตรที่ไม่ใช้วัตถุอันตรายทางการเกษตร (pesticides) เช่น ปุ๋ยเคมี ยาปราบศัตรูพืช การฉายรังสี (food irradiation) และไม่ใช้สายพันธุ์ที่ตัดต่อพันธุกรรม การปศุสัตว์แบบออร์แกนิกจะต้องเลี้ยงด้วยอาหารสัตว์ชนิดออร์แกนิกด้วยเช่นกัน ห้ามเจือปนอาหารจากแหล่งอื่น และห้ามใช้ยาปฏิชีวนะ อาหารออร์แกนิกจะมีราคาแพงกว่าอาหารทั่วไป ข้อดีของอาหารออร์แกนิก คือ ทำให้ผู้บริโภคแน่ใจได้ว่าปลอดจากอันตรายทางเคมี (chemical hazard) โดยเฉพาะจากวัตถุอันตรายทางการเกษตร (pesticides) ซึ่งใช้กันอย่างแพร่หลายในผักและผลไม้แทบทุกชนิด แต่ต้องมีข้อกำหนดการใช้ปุ๋ยอินทรีย์ตามหลักการ Good Agricultural Practice (GAP) เพื่อจะได้ไม่เกิดการปนเปื้อนของจุลินทรีย์ก่อโรค (pathogen) เช่น Escherichia coli ซึ่งเป็นแบคทีเรียที่อาศัยอยู่ในลำไส้ของสัตว์เลือดอุ่น ที่มักพบได้ในปุ๋ยคอก
คำจำกัดความของ "organic"
USDA กำหนดว่า คำว่า "organic" จะใช้ได้เฉพาะกับสินค้าเกษตร (รวมถึงสัตว์น้ำที่จับจากแหล่งธรรมชาติและที่มาจากการเพาะเลี้ยง และอาหารสำหรับเลี้ยงปศุสัตว์) ทั้งที่เป็นวัตถุดิบและที่ผ่านกระบวนการแล้ว ทั้งนี้รวมถึงผลิตภัณฑ์เกษตรที่นำมาใช้ในลักษณะที่เป็นเครื่องปรุง (ingredient) ที่ได้รับการผลิตและการจัดการเป็นไปตามกฎระเบียบ USDA ที่กำหนดไว้ว่าแล้วเท่านั้น คือ
1. เนื้อสัตว์ เนื้อสัตว์ปีก และไข่ มาจากสัตว์ที่ไม่ได้ถูกให้ฮอร์โมนช่วยในการเติบโต หรือยาปฏิชีวนะต่างๆ ยกเว้นการให้อาหารเสริมประเภท วิตามิน หรือแร่ธาตุ ได้รับการเลี้ยงดูด้วยอาหารสัตว์ที่เป็น "organic" และอยู่ในสภาพที่สัตว์มีเสรีภาพในการเคลื่อนที่ไปไหนๆ ได้อย่างเป็นอิสระ
2. เป็นสินค้าที่ไม่ผ่านการตกแต่งแก้ไขทางพันธุกรรมหรือการฆ่าเชื้อโรคโดยการฉายรังสีอาหาร
3. เป็นธัญพืชที่ได้รับการปลูกบนผืนดินที่ไม่มีการใส่ปุ๋ยเคมี หรือปุ๋ยที่เป็นมูลสัตว์ การรักษาสภาพของดินกระทำโดยการเปลี่ยนชนิดของธัญพืชที่ปลูก ปลูกพืชคลุมดิน หรือการใช้ปุ๋ยที่มาจากพืชและสัตว์
4. ศัตรูพืชและโรคพืชได้รับการรักษาโดยการใช้แมลงที่เป็นศัตรูพืชของแมลงที่กำลังทำอันตรายต่อพืช หรือการดักจับ การใช้วิธีทางธรรมชาติในการขับไล่ หรือวิธีอื่นๆ ที่ไม่ใช่สารเคมี
5. สสารที่มนุษย์ประดิษฐ์ขึ้นที่สามารถนำมาใช้ได้ในการผลิตพืชผลหรือการเลี้ยงสัตว์ที่เป็น organic เช่น alcohol, ethanol, calcium hypochlorite, chlorine dioxide, sodium hypochlorite, hydrogen peroxide, elemental sulfur, lime sulfur และ sulfur dioxide เป็นต้น ทั้งนี้จะมีการกำหนดไว้ว่าสารชนิดใดใช้กับการผลิตสินค้าประเภทใดหรือใช้ในลักษณะใด
6. การกำจัดวัชพืชกระทำได้ด้วยวิธีการพรวนดิน ใช้มือเก็บ ใช้เครื่องมือ หรือการคลุมดิน และไม่ใช้สารเคมี
7. ไม่มีการผสมสาร sulfites, nitrate หรือ nitrite ในระหว่างกระบวนการผลิตหรือจัดการ ทั้งนี้ยกเว้นไวน์ที่มีการผสม sulfites อาจจะระบุบนฉลากได้ว่า "made with organic grapes"
8. ไม่มีการใช้เครื่องปรุงชนิดเดียวกัน แต่ในรูปที่ต่างกันคือทั้งที่เป็น organic และไม่ได้เป็น organic
ผลิตภัณฑ์ออร์แกนิกอาจมีส่วนผสมที่ไม่ใช่ออร์แกนิกได้ไม่เกิน 5% ถ้ามีส่วนประกอบที่เป็นออร์แกนิกเพียง 70-95% ผลิตภัณฑ์นั้นห้ามติดฉลากว่าเป็นผลิตภัณฑ์ออร์แกนิกโดยเด็ดขาด แต่สามารถระบุปริมาณส่วนประกอบออร์แกนิกบนฉลากได้ (ในประเทศไทยมีสำนักงานมาตรฐานเกษตรอินทรีย์ เป็นหน่วยงานตรวจสอบและรับรองผลิตภัณฑ์เกษตรอินทรีย์ตามมาตรฐานสากล นอกจากนี้ยังมีเครือข่ายตลาดนัดสีเขียวที่ส่งเสริมการผลิตและการบริโภคสินค้าเกษตรอินทรีย์)