connect networks, collect information, compare solutions, and compile knowledge for your best solution สร้างเครือข่าย รวบรวมข้อมูล เปรียบเทียบโซลูชั่น เพื่อพิจารณา เลือกโซลูชั่นที่ดีที่สุด

Food Wiki

ค้นหา 6,332 คำศัพท์

Dioxins / ไดออกซิน

ไดออกซิน (dioxins) เป็นชื่อกลุ่มสารที่มีโครงสร้างพื้นฐานประกอบด้วยวงแหวนเบนซีน (benzene ring) 2 วง เชื่อมต่อกันด้วยออกซิเจนอะตอม 1-2 อะตอม ถ้ามี 2 อะตอม     เรียกว่า dibenzo-dioxin (DD) ถ้ามี 1 อะตอม เรียกว่า dibenzo-furan (DF) ทั้ง 2 สาร มักเกิดร่วมกัน จึงมีการใช้ชื่อว่า dioxin ที่วงแหวนเบนซีนจะมีหมู่คลอรีนติดอยู่ได้ถึง 8 หมู่

  • chlorinated dioxin หรือ polychlorinated dibenzo-para-dioxins (PCDDs) เป็นกลุ่มสารอินทรีย์ที่ประกอบด้วย วงแหวนเบนซีน 2 วง เชื่อมกันด้วยออกซิเจน 2 อะตอม      มีแฮโลเจน (halogen) เช่น คลอรีน และโบรมีน ที่วางตัวในตำแหน่ง ตรงข้ามกัน
  • furans สารที่คล้ายคลึง dioxins มีชื่อเต็มว่า polychlorinated dibenzo furan (PCDFs)

อันตรายในอาหาร

  • ไดออกซิน สามารถสะสมในมนุษย์และสัตว์ได้ เนื่องจากละลายในไขมันได้ดี และอาจเป็นสารก่อให้เกิดความพิการตั้งแต่กำเนิดการกลายพันธุ์ และสารก่อมะเร็งในมนุษย์ จึงจัดเป็นสารอันตรายในอาหาร (food hazard) ประเภทอันตรายทางเคมี (chemical hazard) ซึ่งปนเปื้อนในอาหารโดยไม่เจตนา
  • สะสมในเซลล์ไขมันของสิ่งมีชีวิต มีความคงตัวสูง ตกค้างได้นานในสิ่งแวดล้อม (Half life in human: 7.8-132 ปี)
  • เป็นสารก่อมะเร็ง เป็นพิษต่อระบบประสาท และระบบการสืบพันธุ์

แหล่งเกิด Dioxin/Furans

1. กระบวนการผลิตเคมีภัณฑ์ที่เกี่ยวข้องกับ chlorinated phenols, chlorinated solvents รวมถึงอุตสาหกรรมการผลิตกระดาษ อุตสาหกรรมฟอกย้อม สิ่งทอ เครื่องหนัง

2. กระบวนการเผาไหม้อุณหภูมิสูง เช่น เตาเผากากของเสีย เตาเผาขยะ เตาเผาศพ

3. การผลิต/หลอมโลหะประเภทเหล็กและโลหะ

4. คลอรีนในกระบวนการฟอกกระดาษ

5. ควันบุหรี่ กระดาษกรองกาแฟผง และ กล่องนม

6. การเผาไหม้ของน้ำมันเชื้อเพลิงรถยนต์ร่วมกับสาร anti knock

7. การเผาไหม้สารเคมีการเกษตรกลุ่ม organochlorine

8. การเผาขยะ การเผาไหม้ต่างๆ

9. กระบวนการผลิตสารเคมีบางชนิด เช่น chlorobenzene, 1,2,4-trichlorobenzene เป็นต้น

 

โอกาสการปนเปื้อนของไดออกซินในอาหาร

ไดออกซินสามารถตกค้างอยู่ในสิ่งแวดล้อมได้เป็นเวลานานและผ่านห่วงโซ่อาหารมาถึงคนได้การได้รับ สารนี้จึงมิได้มาจากทางผิวหนัง หรือการสูดดมเท่านั้น การบริโภคอาหาร  จึงเป็นอีกทางหนึ่งที่จะได้รับไดออกซิน เช่นกัน จากการที่ไดออกซินละลายได้ในไขมันอย่างดี ดังนั้นแหล่งอาหารกลุ่มเสี่ยงที่พบมาก คือ

 

แหล่งของการปนเปื้อนจากไดออกซิน (source of contamination)

  • สิ่งแวดล้อม ทั้งทางอากาศ น้ำ และดิน
  • ทางวัตถุดิบ และอาหารสัตว์ (feed additives)
  • กระบวนการผลิต
  • การขนส่งขนส่ง

กฎระเบียบของสำหรับ Dioxin/Furan

รัฐบาลสหรัฐ โดยสานักงานคุ้มครองสิ่งแวดล้อมแห่งสหรัฐอเมริกา (United State Environmental Protection Agency : USEPA) ได้ออกร่างเอกสารข้อแนะนาสาหรับสาร
ไดออกซิน (dioxin guidance) โดยกาหนดค่าเฉลี่ยปริมาณของสารไดออกซินที่ควรได้รับต่อวันไม่เกิน 0.7 พิโคกรัม/กิโลกรัมน้ำหนักตัว (pg/kg body weight)

ขณะที่องค์การอนามัยโลก (World Health Organization; WHO) และสหภาพยุโรป (EU) ได้กำหนดค่าเฉลี่ยปริมาณของสารไดออกซินที่ควรได้รับต่อวันไม่เกิน 1.0-4.0 พิโค
กรัม/กิโลกรัมน้าหนักตัว (pg/kg body weight)

สำหรับประเทศไทย กรมวิชาการเกษตร - ให้สารในกลุ่ม Dioxin/Furan เป็นวัตถุอันตรายชนิดที่ 3 ตามประกาศกระทรวงอุตสาหกรรม (การมีไว้ครอบครองต้องขออนุญาต) และกรมปศุสัตว์ - กำหนด PCBs ในไขมันสัตว์ปีก ไม่เกิน 2.0 pg/g (0.002 ppb) เท่ากับของ EU มาตรฐาน CODEX สำหรับ Dioxin/Furan ไม่มีการกำหนดค่า MRLs มี Code of Practice เป็นข้อแนะนำในการลดการปนเปื้อน Dioxin และ Dioxin-like PCB (CAC/RCP 62-2006)

 

สถานการณ์การปนเปื้อนใน EU

1976: อิตาลี พบในผักผลไม้ 50 μg/g

1999: เบลเยี่ยม พบในสินค้าปศุสัตว์สูงกว่าค่ามาตรฐาน 800 เท่า

2006: พบใน feed additive, fish oil supplement, และ poultry meat (Portugal)

2007: พบใน feed additive (ตุรกี และจีน), guar gum, canned fish liver ใน EU

2008: ไอร์แลนด์ พบในเนื้อสุกร สูงกว่าค่ามาตรฐาน 100 เท่า และพบในวัตถุดิบอาหารสัตว์หลายชนิดจากหลายประเทศ

 

การพิจารณาการได้รับสารไดออกซินของร่างกายโดยองค์การอนามัยโลก (World Health Organization; WHO) กำหนด Tolerable daily intake (TDI) หรือ ปริมาณสารที่ร่างกายสามารถทนรับได้โดยไม่ก่อให้เกิดอันตรายของสารไดออกซินไว้ที่ 1.0-4.0 pg/kg body weight /day นั่นคือ มนุษย์สามารถได้รับสารไดออกซินจากแหล่งต่าง ๆ รวมกันไม่เกินวันละ 1.0-4.0 พิโคกรัม/กิโลกรัมน้ำหนักตัว ไปจนตลอดชีวิต จึงไม่เป็นอันตรายจากสารไดออกซิน สำหรับวิธีประเมินความเสี่ยงของการได้รับสารไดออกซินใช้วิธีเทียบเท่ากับแฟคเตอร์สารเป็นพิษ หรือ WHO-TEFs (Toxic equivalent factors, 1997)

Reference

 

 

 



(เข้าชม 1,774 ครั้ง)

สมัครสมาชิก