วิตามินบีสอง หรือไรโบฟลาวิน ซึ่งมาจากคำว่า flavus ซึ่งเป็นภาษาลาติน แปลว่ามีสีเหลือง ส้ม เป็นวิตามินและเป็นวัตถุเจือปน
อาหาร ที่ทำหน้าที่เป็นสารให้สี (coloring agent)
ที่มา: http://www.chemistry.wustl.edu/~courses/genchem/LabTutorials/Vitamins/riboflavin.htm
แหล่งของวิตามินบีสอง อาหารที่เป็นแหล่งของวิตามินบีสอง ได้แก่
ปริมาณที่ร่างกายต้องการ
ความต้องการวิตามินบีสอง (Estimated Average Requirment, EAR)
Nutrient | RDI | highest RDA of DRI |
---|---|---|
Vitamin A | 5000 IU | 3000 IU |
Vitamin C | 60 mg | 90 mg |
Vitamin D | 400 IU | 600 IU |
Vitamin E (α-tocopherol ) | 30 IU | 15 mg (33 IU of synthetic) |
Vitamin K | 80 μg | 120 μg |
Vitamin B1 (Thiamin) | 1.5 mg | 1.2 mg |
Vitamin B2 (Riboflavin) | 1.7 mg | 1.3 mg |
Vitamin B3 (Niacin) | 20 mg | 16 mg |
Vitamin B6 | 2 mg | 1.7 mg |
Vitamin B9 (Folic acid) | 400 μg | 400 μg |
Vitamin B12 | 6 μg | 2.4 μg |
Vitamin H (Biotin) | 300 μg | 30 μg |
Pantothenic acid | 10 mg | 5 mg |
EAR: Estimated Average Requirements; RDA: Recommended Dietary Allowances; AI: Adequate Intake; UL: Tolerable upper intake levels.
ภาวะการขาดวิตามินบีสอง
การขาดวิตามนิบีสอง ทำให้เป็นโรคปากนกกระจอก อาการมีแผลที่มุมปาก ริมฝีปากแห้งแตก ระคายเคืองตา ไม่กล้าสู้แสงสว่าง
มองไม่ชัด
การสูญเสียวิตามินบีสอง
วิตามินบีสอง ทนต่อความร้อนในการหุงต้ม และ ารแปรรูปอาหาร เช่น การแปรรูปอาหารด้วยความร้อน (thermal processing)
แต่วิตามนิบีสองถูกทำลายโดยการสัมผัสกับแสง ไม่ควรเก็บไว้ในบรรจุภัณฑ์ที่สัมผัสกับแสงโดยตรง เช่น ขวดแก้วใส ควรเก็บรักษา
อาหารในบรรจุภัณฑ์ทึบแสง